น้ำมันลงแรงในวันจันทร์ (26 ก.ย.) ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ปัจจัยนี้ฉุดทองคำปิดลบเช่นกัน ส่วนวอลล์สตรีทแกว่งตัวปรับลด นักลงทุนยังกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยรุนแรง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 2.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 2.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันขยับลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ดิ่งลงราวๆ 5% เมื่อวันศุกร์ (23 ก.ย.)
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ ก่อแรงกดดันแก่อุปสงค์น้ำมัน ซึ่งซื้อขายกันในรูปแบบค่าเงินของสหรัฐฯ โดยมันทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือเงินสกุลอื่นๆ
ความเคลื่อนไหวของดอลลาร์ ฉุดให้ทองคำขยับลงต่อเนื่อง และในวันจันทร์ (26 ก.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 22.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,633.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (26 ก.ย.) ดิ่งสู่ขาลงหนักหน่วงยิ่งขึ้น จากการปิดลบของเอสแอนด์พี500 และดาวโจนส์ นักลงทุนวิตกว่าความเคลื่อนไหวเชิงรุกของธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) ในการรับมือกับเงินเฟ้อ อาจฉุดเศรษฐกิจของประเทศไถลสู่ภาวะถดถอยรุนแรง
ดาวโจนส์ ลดลง 329.60 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 29,260.81 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 38.19 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,655.04 จุด แนสแดค ลดลง 65.00 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,802.92 จุด
หลังจากเฟดส่งสัญญาณเมื่อวันพุธ (21 ก.ย.) ว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2023 ตลาดทุนเต็มไปด้วยความกังวลและขยับลงมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังหวั่นวิตกกับความเคลื่อนไหวอันน่าตื่นตะลึงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ด้วยค่าเงินปอนด์สเตอริง แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความกังวลว่าแผนการคลังของรัฐบาลใหม่แห่งสหราชอาณาจักรที่เผยแพร่ในวันศุกร์ (23 ก.ย.) อาจคุกคามสถานะทางการเงินของประเทศ
(ที่มา : รอยเตอร์)