ราคาน้ำมันขยับลงในวันอังคาร (20 ก.ย.) หลังดอลลาร์ยังคงแข็งค่าและนักลงทุนคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้ง 2 ปัจจัยฉุดให้ทองคำและวอลล์สตรีทปิดในแดนลบเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.38 ดอลลาร์ ปิดที่ 90.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
มีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในวันพุธ (21 ก.ย.) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ความพยายามดังกล่าวคาดหมายว่าจะเป็นตัวถ่วงตลาดทุน เช่นเดียวกับราคาน้ำมัน ในขณะที่คาดหมายว่าธนาคารกลางประเทศอื่นๆ ในนั้นรวมถึงธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งจะประชุมกันในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวแบบเดียวกัน
ดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นตัวหนุนดอลลาร์ ซึ่งยังคงแกว่งตัวอยู่ในระดับสูงสุดรอบ 20 ปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในวันอังคาร (20 ก.ย.) ส่งผลให้ราคาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่น
ปัจจัยดอลลาร์แข็งค่า ฉุดใหราคาทองคำกลับลงไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 ในวันอังคาร (20 ก.ย.) ในขณะที่นักลงทุนเฝ้ารอการตัดสินใจของเฟด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 7.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,671.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (20 ก.ย.) ปิดแดนลบก่อนหน้าการประชุมเฟด ซึ่งคาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกหน เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ท่ามกลางสัญญาณเพิ่มเติมว่าบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกากำลังได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ
ดาวโจนส์ ลดลง 313.45 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 30,706.23 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 43.96 จุด (1.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,855.93 จุด แนสแดค ลดลง 109.97 จุด (0.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,425.05 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับลดมาแล้ว 19.1% ในปีนี้ นักลงทุนเกรงว่ามาตรการกระชับนโยบายทางการเงินเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจฉุดเศรษฐกิจอเมริกาเข้าสู่ภาวะถดถดถอย
หุ้นของฟอร์ดดิ่งลง 12.3% ปรับลดวันเดียวหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 หลังประมาณการว่าจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อรุนแรงกว่าที่คาดหมาย 1,000 ล้านดอลลาร์ และผลจากการต้องเลื่อนการส่งมอบรถยนต์บางส่วนออกไปเป็นไตรมาส 4 สืบเนื่องจากภาวะขาดแคลนชิ้นส่วน ในขณะที่คู่แข่งอย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส ปิดลบเช่นกัน 5.6%
(ที่มา : รอยเตอร์)