องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) จะจับตาอย่างใกล้ชิดต่อการซ้อมรบนิวเคลียร์ของรัสเซียที่กำลังมาถึง แต่จะไม่หงอถอนการสนับสนุนยูเครนตามคำขู่นิวเคลียร์อ้อมๆ ของมอสโก จากการเปิดเผยของเลขาธิการนาโต้ในวันพฤหัสบดี (13 ต.ค.)
คำประกาศจับตาใกล้ชิดนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ เพิ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร (11 ต.ค.) นาโต้จะเดินหน้าตามแผนสำหรับการซ้อมรบนิวเคลียร์ประจำปี แม้ว่าความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายระหว่างรัสเซียกับยูเครน โหมกระพือความกังวลจะเกิดการเผชิญหน้าโดยตรงและครั้งหายนะระหว่างมอสโกกับกลุ่มพันธมิตรทหารตะวันตกแห่งนี้
"เราจะไม่ยอมถูกข่มขู่" เยน สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้บอกกับพวกผู้สื่อข่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมบรรดารัฐมนตรีกลาโหมของพันธมิตรเป็นเวลา 2 วัน "โวหารทางนิวเคลียร์ของรัสเซียนั้นอันตราย ขาดความยั้งคิดและพวกเขาควรรู้ไว้เลยว่าหากพวกเขาใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครนมันจะก่อผลสนองร้ายแรง"
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นรวมตัวครั้งใหญ่สุดครั้งแรกของนาโต้ นับตั้งแต่มอสโกผนวก 4 แคว้นของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน เริ่มระดมทหารกองหนุนและเผยแพร่ถ้อยแถลงข่มขู่นิวเคลียร์แบบอ้อมๆ ความเคลื่อนไหวที่ทางนาโต้ระบุว่า เป็นการทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งที่เริ่มต้นจากการรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ลุกลามบานปลาย
ความพ่ายแพ้ในด้านการทหารหลายสมรภูมิของรัสเซียในยูเครน ก่อความกังวลว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อาจทำตามคำขู่ด้วยการใช้อาวุธนิวเคลียร์จริงๆ
สโตลเทนเบิร์ก บอกว่านาโต้จะจับตาการซ้อมรบนิวเคลียร์ประจำปีของรัสเซียอย่างใกล้ชิดที่สุด แม้มันเป็นการซ้อมรบที่มีมานานหลายทศวรรษ แต่ยังคงต้องตื่วตัวขั้นสูง "ไม่ใช่แค่มันเกิดขึ้นตามหลังคำขู่นิวเคลียร์แบบอ้อมๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโวหารที่เป็นอันตรายที่เราพบเห็นจากฝ่ายรัสเซียด้วย"
ดูเหมือนว่าเลขาธิการนาโต้รายนี้จะกล่าวอ้างถึงการซ้อมรบประจำปี Grom ของรัสเซีย ซึ่งปกติแล้วจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งทางรัสเซียใช้ทดสอบเครื่องบินทิ้งระเบิดศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ เรือดำน้ำ และขีปนาวุธ
คำกล่าวล่าสุดของสโตลเทนเบิร์ก มีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคาร (11 ต.ค.) เขาเพิ่งประกาศเดินหน้าตามแผนสำหรับการซ้อมรบเตรียมความพร้อมทางนิวเคลียร์ประจำปี "Steadfast Noon" ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งกองกำลังทางอากาศของนาโต้จะทำการฝึกฝนแนวทางการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในยุโรป ด้วยเที่ยวบินฝึกซ้อมที่ปราศจากอาวุธจริง
เลขาธิการนาโต้บอกว่ามันจะกลายเป็นการ "ส่งสารที่ผิดอย่างมหันต์" หากว่านาโต้ยกเลิกการซ้อมรบนิวเคลียร์เพราะวิกฤตยูเครน "เราจำเป็นต้องตระหนักว่าความมั่นคงของนาโต้ พฤติกรรมที่หนักแน่น ความเข้มแข็งทางทหารของเรา คือหนทางที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย เราอยู่ที่นี่เพื่อพิทักษ์สันติภาพ เพื่อขัดขวางสถานการณ์ที่ลุกลาม และป้องกันการโจมตีใดๆ ใส่ประเทศพันธมิตรของนาโต้"
ในวันพุธ (12 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของนาโต้รายหนึ่ง แสดงความคิดเห็นว่าการโจมตีทางนิวเคลียร์ของรัสเซียใดๆ ใส่ยูเครน หมายถึงการเกือบจะกระตุ้น “การตอบสนองทางกายภาพ” จากบรรดาพันธมิตรของยูเครนและตัวนาโต้เอง
สโตลเทนเบิร์ก กล่าวเตือนมอสโกเกี่ยวกับ "ผลลัพธ์ร้ายแรง" หากว่ารัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์กับยูเครน แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับแนวทางความเป็นไปได้ที่นาโต้จะใช้ตอบโต้
เลขาธิการนาโต้ระบุด้วยว่า การโจมตีทางนิวเคลียร์จะก่อการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในลักษณะของความขัดแย้ง และหมายถึงการก้าวข้ามเส้นตายที่สำคัญมากๆ "แม้กระทั่งการใช้อาวุธนิเคลียร์ขนาดเล็ก มันก็จะเป็นสิ่งที่ร้ายแรงมาก และเปลี่ยนแปลงพื้นฐานลักษณะของสงครามในยูเครน"
โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวเตือนว่า "การโจมตีนิวเคลียร์ใดๆ ใส่ยูเครนจะก่อคำตอบ ไม่ใช่คำตอบทางนิวเคลียร์ แต่เป็นคำตอบทรงพลังจากฝ่ายทหาร ซึ่งทหารรัสเซียจะถูกทำลายล้าง และปูตินไม่ควรพูดจาเกทับ"
เช่นเดียวกับ สโตลเทนเบิร์ก ทาง ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ปฏิเสธคาดเดาว่านาโต้จะตอบโต้อย่างไรต่อการโจมตีทางนิวเคลียร์ พร้อมเรียกคำขู่ของรัสเซียว่า "ไม่ยั้งคิดและขาดความรับผิดชอบ"
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุในเดือนที่แล้ว ว่า สหรัฐฯ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนกับมอสโกไปแล้วถึง "ผลลัพธ์หายนะ" ที่ทางรัสเซียต้องเผชิญหากใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน อย่างไรก็ตาม ซัลลิแวน ไม่ได้ให้คำจำกัดความอย่างเปิดเผยต่อลักษณะการตอบโต้ของอเมริกา
(ที่มา : รอยเตอร์)
