(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Huawei’s new chip supplier draws US attention
By JEFF PAO
07/10/2022
เซินเจิ้น เผิงซิน ไมโคร บริษัทสตาร์ทอัปที่สื่อหลายเจ้ารายงานว่า จะเป็นซัปพลายเออร์รายใหม่ที่จัดส่งชิปให้แก่หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ตามโครงสร้างของบริษัทแล้วมีรัฐบาลเมืองเซินเจิ้นเป็นเจ้าของ และมีอดีตผู้บริหารคนหนึ่งของหัวเว่ย นั่งเป็นซีอีโอ
บริษัทสตาร์ทอัปแห่งหนึ่งในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งจัดตั้งโดยอดีตผู้บริหารของหัวเว่ย กลายเป็นจุดสนใจจับตามองของวอชิงตัน สืบเนื่องจากมีรายงานว่าบริษัทแห่งนี้จะจัดส่งชิปไปให้แก่ หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ซึ่งถูกสหรัฐฯ แซงก์ชันอยู่
เซินเจิ้น เผิงซิน ไมโคร อินทิเกรเต็ด เซอร์กิต แมนูแฟคเจอริ่ง (Shenzhen Pengxin Micro Integrated Circuit Manufacturing Co Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 จะได้รับเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปที่สั่งซื้อไว้ในปีหน้า และเริ่มการผลิตชิปขนาด 28 นาโนเมตรในปี 2025 สื่อมวลชนหลายเจ้ารายงานเอาไว้เช่นนี้
บลูมเบิร์ก บอกในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) [1] ว่า เผิงซิน ไมโคร หรือเผิงซินเวย (Pengxinwei) ในภาษาจีนกลาง ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือหัวเว่ย ข้ามลอดมาตรการแซงก์ชันของสหรัฐฯ
ในรายงานอีกชิ้นหนึ่ง รอยเตอร์บอกในวันอังคาร (4 ต.ค.) [2] ว่า คณะบริหารไบเดนกำลังจะเปิดเผยมาตรการชุดใหม่ซึ่งมุ่งจำกัดบริษัทจีนไม่ให้สามารถเข้าถึงประดาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ระดับก้าวหน้าของสหรัฐฯ
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ในยุคของคณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ใส่ชื่อหัวเว่ย และกิจการในเครืออีก 70 แห่ง เอาไว้ในบัญชีดำที่เรียกว่า “Entity List” ของตนโดยเหตุผลข้ออ้างในด้านความมั่นคงแห่งชาติ ความเคลื่อนไหวคราวนั้นเป็นการสั่งห้ามจำหน่ายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ซึ่งมีเทคโนโลยีสหรัฐฯ เกี่ยวข้องอยู่ด้วยไปให้แก่ หัวเว่ย และบริษัทในเครือเหล่านี้
ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2020 หัวเว่ย ได้ถอนตัวจากการถือหุ้นทั้งหมดในออเนอร์ (Honor) ที่เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนของตน เพื่อให้กิจการแห่งนี้ยังคงสามารถซื้อหาชิปสหรัฐฯ มาใช้ต่อไปได้ เวลานี้ ออเนอร์ ถูกควบคุมโดยเซินเจิ้น สมาร์์ท ซิตี้ เทคโนโลยี ดีเวลอปเมนต์ กรุ๊ป (Shenzhen Smart City Technology Development Group) บริษัทแห่งหนึ่งของรัฐบาลเมืองเซินเจิ้น
ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว กลุ่มเซินเจิ้น เมเจอร์ อินดัสตรี อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ป (Shenzhen Major Industry Investment Group) ซึ่งก็เป็นของรัฐบาลเซินเจิ้นเช่นเดียวกัน ได้จัดตั้ง เผิงซิน ไมโคร ขึ้นมาโดยมีที่ทำการอยู่ในเขตหลงกั่ง (Longgang) และโจว จิน (Zhou Jin) อดีตผู้บริหารคนหนึ่งของหัวเว่ย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนทางกฎหมายของเผิงซิน ไมโคร
ตามข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า เผิงซิน ไมโคร ตั้งจุดมุ่งหมาย [3] ที่จะตอบสนองความต้องการชิปซึ่งกำลังเพิ่มสูงขึ้นทั้งจากภาคยานยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และสื่อสารโทรคมนาคม ในพื้นที่เกรตเทอร์ เบย์ แอเรีย (Greater Bay Area) ในมณฑลกวางตุ้ง
บริษัทบอกว่า ได้รับประกาศนียบัตรรับรอง [4] จากรัฐบาลเมืองเซินเจิ้นในเดือนเมษายน ให้มีฐานะเป็นหนึ่งในโครงการอุตสาหกรรมสำคัญที่สุดในเซินเจิ้นสำหรับปี 2022
มีบทความเขียนเป็นภาษาจีนชิ้นหนึ่ง [5] เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ว่า โจว ซึ่งเป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย มารีน เนตเวิร์ก จำกัด (Huawei Marine Networks Co Ltd) ปัจจุบันคือประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเผิงซิน ไมโคร
ขณะที่หัวเว่ย มารีน เป็นบริษัทซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2008 โดยที่หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ถือหุ้นอยู่ 51% และอีก 49% เป็นของโกลบอล มารีน กรุ๊ป (Global Marine Group) บริษัทผู้ให้บริการด้านสายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร
ในเดือนมิถุนายน 2019 หัวเว่ยขายหุ้น 51% ซึ่งถืออยู่ในหัวเว่ย มารีน [6] ให้เหิงทง กรุ๊ป (Hengtong Group) ผู้ผลิตสายเคเบิลไฟเบอร์ออปติกสัญชาติจีนซึ่งจดทะเบียนซื้อขายหุ้นอยู่ในตลาดเซี่ยงไฮ้ สิ่งที่ได้รับตอบแทนคือ หัวเว่ยกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของเหิงทง ในเดือนมกราคม 2020 ภายหลังได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการจัดระเบียบหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน (China Securities Regulatory Commission)
ในเดือนมิถุนายน 2020 โกลบอล มารีน กรุ๊ป ก็ขายหุ้น 30% ในหัวเว่ย มารีน ให้แก่เหิงทง กรุ๊ป ทำให้กลุ่มนี้ถือหุ้นในหัวเว่ย มารีน สูงขึ้นเป็น 81%
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวทั้งหมดเหล่านี้ประสบความล้มเหลวไม่สามารถป้องกันไม่ให้ หัวเว่ย มารีน ถูกเพิ่มชื่อเข้าไปในบัญชีดำ Entity List เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 โดยสำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคงสหรัฐฯ (US Bureau of Industry and Security หรือ BIS) [7] หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งดูแลบัญชีดำนี้ ต่อมาในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน หัวเว่ย มารีน ได้แปลี่ยนแบรนด์ตัวเองให้กลายเป็นเอชเอ็มเอ็น เทคโนโลยีส์ (HMN Technologies) [8]
เวลานี้ เผิงซิน ไมโคร ซึ่งบริหารโดย โจว และมีรัฐบาลเมืองเซินเจิ้นเป็นเจ้าของ กำลังถูกกวาดมองจากเรดาร์ของ BIS หลังจากมีรายงานในสื่อหลายรายระบุว่า บริษัทแห่งนี้จะซัปพลายชิปให้แก่หัวเว่ย ทางหัวเว่ย เองนั้นไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในเร็วๆ นี้คณะบริหารไบเดน จะประกาศมาตรการจำกัดชุดใหม่เพื่อควบคุมกีดกันจีนในการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ทำเนียบขาวและกระทรวงพาณิชย์อเมริกันยังไม่ออกความเห็นใดๆ ต่อข่าวนี้
(คณะบริหารไบเดนประกาศมาตรการใหม่เพื่อกีดกันจีนเข้าถึงเทคโนโลยีชิปสหรัฐฯ ออกมาแล้ว ในวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.reuters.com/technology/us-aims-hobble-chinas-chip-industry-with-sweeping-new-export-rules-2022-10-07/ - ผู้แปล)
มีคอลัมนิสต์ชาวจีนบางราย [9] ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (4 ต.ค.) เรื่องการใช้ฐานะความได้เปรียบของอเมริกามาสกัดปิดกั้นการพัฒนาทางเทคโนโลยีของจีน และธำรงรักษาฐานะความเป็นเจ้าเหนือใครๆ ของสหรัฐฯ เอาไว้
คอลัมนิสต์เหล่านี้บอกว่า มาตรการแซงก์ชันของสหรัฐฯ มีแต่จะสร้างความเจ็บปวดให้แก่ยอดขายของพวกผลิตภัณฑ์อเมริกัน และผลักดันให้พวกบริษัทจีนเพิ่มพูนยกระดับการวิจัยของพวกตน ตลอดจนเพิ่มการลงทุนในด้านการวิจัยและการพัมนา (R&D) ของตน
เชิงอรรถ
[1] https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-10-05/secretive-chip-startup-may-help-huawei-circumvent-us-sanctions
[2] https://www.reuters.com/technology/us-expected-announce-new-limits-chinas-ai-supercomputing-firms-nyt-2022-10-03/
[3] https://www.pxwsemi.com/
[4] https://www.pxwsemi.com/73.html
[5] https://www.deo8.com/4764.html
[6] https://finance.sina.com.cn/stock/s/2019-06-18/doc-ihytcerk7793117.shtml
[7]https://www.federalregister.gov/documents/2020/08/20/2020-18213/addition-of-huawei-non-us-affiliates-to-the-entity-list-the-removal-of-temporary-general-license-and
[8]https://www.hmntechnologies.com/enPressReleases/37764.jhtml
[9] https://www.163.com/dy/article/HIRPQQF00512DU6N.html