สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญความเสี่ยงอย่างมากต่อปัญหาขาดแคลนก๊าซในฤดูหนาวนี้ จากการเปิดเผยของคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบเมื่อวันจันทร์ (3 ต.ค.) ซึ่งนั่นหมายความว่ามันอาจกระทบต่ออุปทานไฟฟ้าด้วย
ออฟเจม (Ofgem) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบด้านพลังงานของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า สืบเนื่องจากสงครามของรัสเซียกับยูเครน มีความเป็นไปได้ที่สหราชอาณาจักรจะเข้าสู่ "สถานการณ์ฉุกเฉินด้านอุปทานก๊าซ"
สถานการณ์ดังกล่าวอาจนำมาซึ่งปัญหาไม่มีอุปทานก๊าซป้อนสู่สถานีไฟฟ้าต่างๆ ของประเทศที่ใช้ก๊าซในการก่อกำเนิดไฟฟ้า และทำให้บรรดาบริษัทผู้บริหารงานทั้งหลายเสี่ยงเผชิญภาวะถังแตก เพราะพวกเขาอาจต้องชดใช้ค่าปรับมูลค่ามหาศาล หากไม่อาจส่งมอบไฟฟ้าตามสัญญาได้
ออฟเจม เขียนชี้แจงในเรื่องนี้ในจดหมายตอบกลับไปยังบริษัท SSE ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานีไฟฟ้าพลังงานก๊าซ 4 แห่งในสหราชราชอาณาจักร หลังจาก SSE แสดงความกังวลว่าบรรดาผู้บริหารสถานีไฟฟ้าพลังงานก๊าซทั้งหลายอาจเผชิญค่าปรับมูลค่าหลายล้านปอนด์ หากว่าไม่สามารรถทำตามสัญญาป้อนอุปทานไฟฟ้า "อันมีต้นตอจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขา"
ทั้งนี้ ทางออฟเจมระบุว่า "สืบเนื่องจากสงครามในยูเครนและปัญหาขาดแคลนก๊าซในยุโรป จึงมีความเสี่ยงอย่างมากที่ภาวะขาดแคลนก๊าซจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว 2022-23 ในสหราชอาณาจักร และผลคือ มีความเป็นไปได้ที่สหราชอาณาจักรอาจเข้าสู่สถานการณ์ฉุกเฉินด้านอุปทานพลังงาน"
"ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้น อุปทานที่ป้อนสู่พวกผู้ใช้ก๊าซรายใหญ่ที่สุดจะถูกตัด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นบรรดาสถานีไฟฟ้าพลังงานก๊าซขนาดใหญ่ ซึ่งผลิตไฟฟ้าป้อนสู่ระบบจ่ายไฟฟ้าแห่งชาติ" คำชี้แจงระบุ
ในกรณีที่อุปทานไฟฟ้าเกิดปัญหาวุ่นวาย บรรดาบริษัทผู้ดูแลสถานีไฟฟ้าจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เรียกว่าค่าชดเชยพลังงงานไฟฟ้าไม่สมดุล ซึ่งครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายของทางโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติ ที่จำเป็นต้องหาไฟฟ้าจากแหล่งอื่นๆ มาทดแทน
ออฟเจม ระบุว่า ผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นคือ มีความเป็นไปได้ที่บรรดาบริษัทผู้ดูแลสถานีไฟฟ้าพลังงานก๊าซอาจถึงขั้นล้มละลาย หากสถานการณ์ฉุกเฉินทางอุปทานเกิดขึ้นจริง
ทาง SSE ระบุว่า สถานีไฟฟ้าขนาดทั่วๆ ไป อาจเผชิญค่าชดใช้ราวๆ 276 ล้านปอนด์ต่อวัน (ราว 11,000 ล้านบาท) หากว่าไม่สามารถให้กำเนิดไฟฟ้าได้
ในจดหมายชี้แจง ซึ่งหนังสือพิมพ์เดอะไทม์สรายงานเป็นแห่งแรก ทาง ออฟเจม บอกว่าจะมองประเด็นเกี่ยวกับค่าชดใช้เป็นประเด็นเร่งด่วน เพราะว่ามันจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของระบบไฟฟ้า
SSE ระบุว่า จากการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกับออฟเจม "มันจะช่วยปกป้องความมั่นคงทางอุปทาน ด้วยการรับประกันว่าสถานีไฟฟ้าพลังงานก๊าซจะมีความยืดหยุ่นในการก่อกำเนิดไฟฟ้าตลอดช่วงเวลาที่ท้าทายนี้"
โฆษกบอกว่า "มีความเห็นตรงกันอย่างกว้างขวางในภาคอุตสาหกรรม เกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องพิจารณาในประเด็นนี้ พร้อมกับตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเพื่อออฟเจม" ส่วน RWE ซึ่งป้อนไฟฟ้าในสหราชอาณาจักร ผ่านโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซเช่นกัน บอกว่าพวกเขามีความกังวลแบบเดียวกัน "สืบเนื่องจากกรณีแวดล้อมที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา ทางสถานีจะถูกลงโทษอย่างหนัก ฐานไม่ทำตามสัญญาให้กำเนิดไฟฟ้า"
ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการรุกรานยูเครน รัสเซียลดการจ่ายอุปทานพลังงานที่ป้อนสู่ยุโรป ในขณะที่หลายประเทศให้คำมั่นว่าจะเลิกพึ่งพิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย
แม้สหราชอาณาจักรไม่ได้พึ่งพิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญ แต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น มีต้นตอจากผลกระทบอันกว้างขวางของความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่มีต่ออุปทานระหว่างประเทศ
กรณีล่าสุดคือ เมื่อเร็วๆ นี้ พบรูรั่วหลายจุดในท่อลำเลียงหลัก 2 ท่อที่ป้อนก๊าซจากรัสเซียสู่เยอรมนี ได้แก่นอร์ดสตรีม 1 และนอร์ดสตรีม 2 โดยอียู สหรัฐฯ และนาโต้ บ่งชี้ว่าความเสียหายเกิดขึ้นโดยจงใจ แต่ทางรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ
(ที่มา : บลูมเบิร์ก/เดอะไทม์ส)
