ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันพุธ (12 ต.ค.) ลงมติท่วมท้นประณามรัสเซียต่อกรณีผนวกแคว้นต่างๆ ของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งในดินแดน หลังจากมอสโกได้ใช้สิทธิวีโต้ความพยายามแบบเดียวกันนี้ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเห็นชอบญัตติดังกล่าวด้วยมติ 143 ต่อ 5 เสียง แต่มี 35 ประเทศที่งดออกเสียง ในนั้นรวมถึงจีน อินเดีย แอฟริกาใต้ ปากีสถาน และไทย แม้สหรัฐฯ พยายามทางการทูตครั้งใหญ่ร้องขอให้ประณามมอสโกชัดเจนยิ่งขึ้น
มตินี้ประณามการกระทำของสหพันธรัฐรัสเซียที่ดำเนินการในสิ่งที่เรียกว่า "ประชามติ" ภายในเขตแดนของยูเครนที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ และความพยายามผนวกดินแดนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 4 แคว้นของยูเครน ที่ประกาศโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อเดือนที่แล้ว
ญัตตินี้เรียกร้องให้ทุกองคาพยพของสหประชาชาติ และองค์กรระหว่างประเทศทั้งหลายไม่รับรองการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อเขตแดนที่แถลงโดยรัสเซีย และเรียกร้องให้มอสโกกลับลำการตัดสินใจดังกลาว "ในทันทีและแบบไม่มีเงื่อนไข"
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ผลโหวตแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของนานาชาติในการต่อต้านรัสเซีย และเน้นย้ำว่าวอชิงตันจะไม่มีวันรับรองประชามติ "ที่น่าละอาย" ดังกล่าว
"ผลโหวตคือเครื่องเตือนความทรงจำอันทรงพลัง ว่า ประเทศส่วนใหญ่อย่างท่วมท้นยืนหยัดเคียงข้างรัสเซีย ในการปกป้องกฎบัตรสหประชาชาติ และในมติต่อต้านการทำสงครามของรัสเซียกับยูเครนและกับประชาชนชาวยูเครน" บลิงเคนระบุในถ้อยแถลง
ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ เรียกร้องทุกประเทศส่งสารว่าทั่วโลกจะไม่อดทนต่อการใช้กำลังเข้ายึดดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน "ในวันนี้ รัสเซียกำลังรุกรานยูเครน แต่วันพรุ่งนี้อาจมีประเทศอื่นที่ดินแดนถูกละเมิด มันอาจเป็นคุณ คุณอาจเป็นรายต่อไป แล้วคุณจะคาดหวังอะไรจากที่ประชุมนี้" เธอกล่าว
สหรัฐฯ ทุ่มเทพลังงานอย่างมากในความพยายามหาทางโน้มน้าวแอฟริกาใต้และอินเดียให้ยกมือสนับสนุนญัตติดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดีย พันธมิตรของสหรัฐฯ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซีย และเพิ่งงดออกเสียงในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติเช่นกัน ในฐานะประเทศสมาชิกไม่ถาวร
ผลการลงมติล่าสุดนี้ส่วนใหญ่แล้วออกมาคล้ายๆ กับครั้งที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ลงมติประณามปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียในเดือนมีนาคม โดยมีเสียงโหวตต่อต้านรัสเซียเพิ่มเติม 2 เสียง
บังกลาเทศ อิรัก และเซเนกัล ซึ่งงดออกเสียงครั้งลงมติในเดือนมีนาคม หนนี้ในวันพุธ (12 ต.ค.) ลงมติประณามรัสเซีย ส่วน เอริเทรีย เปลี่ยนจากไม่เห็นด้วยเป็นงดออกเสียง ขณะที่ นิคารากัว ที่อยู่ภายใต้แรงกดดันจากนานาชาติหนักหน่วงขึ้นในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน เปลี่ยนจากงดออกเสียง หันไปโหวตคัดค้าน ร่วมกับรัสเซีย เบลารุส เกาหลีเหนือ และซีเรีย
(ที่มา : รอยเตอร์)
