ยูเครนยังไม่กล่าวอ้างความรับผิดชอบเหตุรถบรรทุกระเบิดตูมสนั่น ก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สะพานรถไฟที่คู่ขนานไปกับถนน ซึ่งเชื่อมจากรัสเซียไปยังไครเมียเมื่อวันเสาร์ (8 ต.ค.) เล่นงานสัญลักษณ์แห่งการผนวกแหลมแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมอสโก และเส้นทางลำเลียงเสบียงหลักของกองกำลังรัสเซียที่กำลังสู้รบในดินแดนยึดครองทางภาคใต้ของยูเครน แต่ทางหัวหน้าสภาความมั่นคงเคียฟโพสต์คลิปร้องเพลง "แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ปูติน" ส่วนที่ปรึกษาประธานาธิบดีเซเลนสกี บอก "นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
เหตุระเบิดสะพานที่ทอดข้ามช่องแคบเคิร์ช ในส่วนของรัสเซียเบื้องต้นยังไม่ได้กล่าวโทษฝ่ายไหน แต่มันกระตุ้นการส่งสารด้วยความยินดีปรีดาจากบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครน แม้จะไม่ได้กล่าวอ้างความรับผิดชอบโดยตรงก็ตาม
คณะสืบสวนของรัสเซียเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย และสันนิษฐานว่าน่าจะรวมถึงพวกคนที่อยู่ในรถยนต์คันหนึ่งซึ่งกำลังแล่นอยู่ใกล้ๆ ตอนที่รถบรรทุกเกิดระเบิด
รัสเซียยึดไครเมียมาจากยูเครนในปี 2014 และสะพานข้ามช่องแคบเคิร์ชความยาว 19 กิโลเมตร ที่เชื่อมไครเมียกับโครงข่ายการขนส่งของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ทำพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ในอีก 4 ปีต่อมา พร้อมขับรถบรรทุกก่อสร้างข้ามสะพานเป็นคันแรก
เวลานี้มันทำหน้าที่เป็นเส้นเลือดหลักสำหรับกองกำลังรัสเซีย ซึ่งยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคว้นเคอร์ซอน ทางภาคใต้ของยูเครน และเป็นที่ตั้งของท่าเรือกองทัพเรือในเมืองเซวาสโตโพล
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เป็นการโจมตีโดยตั้งใจหรือไม่ แต่ความเสียหายที่เกิดกับโครงสร้างพื้นฐานอันสำคัญนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัสเซียประสบความปราชัยในหลายสมรภูมิ และอาจเป็นการกัดกร่อนความเชื่อมั่นต่อสารจากฝ่ายรัสเซีย หลังจากก่อนหน้านี้ทางเครมลินออกมารับประกันกับประชาชนว่าสงครามกำลังเป็นไปตามแผน
นอกจากนี้ มันยังเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวันครบรอบวันเกิดอายุ 70 ปีของปูติน เพียงแค่วันเดียว
โอเลกซีย์ ดานิลอฟ ประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติและกลาโหมของยูเครน โพสต์วิดีโอภาพที่สะพานกำลังลุกไหม้บนสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมกับวิดีโอที่ มาริลีน มอนโร กำลังร้องเพลง "แฮปปี้ เบิร์ธเดย์ มิสเตอร์ประธานาธิบดี"
นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มเปิดฉากรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ บรรดาเจ้าหน้าที่ยูเครนมักพาดพิงอยู่เป็นประจำ แสดงความปรารถนาทำลายสะพานเคิร์ช ซึ่งทางยูเครนมองว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งการยึดครองไครเมียของรัสเซีย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในถ้อยแถลงว่ากองกำลังของพวกเขาในทางภาคใต้ของยูเครน จะยังคงได้รับป้อนเสบียงอย่างเต็มรูปแบบเหมือนเดิม ผ่านเส้นทางทางภาคพื้นที่มีอยู่และทางทะเล ขณะที่กระทรวงคมนาคมบอกว่าการขนส่งทางรถไฟข้ามสะพานแห่งนี้ จะกลับมาขนส่งได้อีกครั้งตอนเวลาราว 17.00 จีเอ็มที (ตรงกับเมืองไทย 24.00 น.)
มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่าปฏิกิริยาตอบสนองของเคียฟของเหตุการณ์ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนครั้งนี้ "เป็นหลักฐานพยานสันดานก่อการร้ายของยูเครน"
คณะกรรมาธิการต่อต้านก่อการร้ายของรัสเซียเผยว่า รถบรรทุกสินค้าระเบิดบนถนนของสะพาน ตอนเวลา 6.07 น.(ตรงกับเมืองไทย 10.07 น.) เป็นเหตุให้โบกี้บรรทุกถังน้ำมัน 7 ตู้ของรถไฟขบวนหนึ่งซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่แหลมไครเมีย บนรางที่แล่นขนานกัน เกิดไฟลุกไหม้
นอกจากนี้ มันยังทำให้สะพานพังลงมาบางส่วน แต่ส่วนโค้งของสะพานที่ทอดข้ามช่องแคบเคิร์ช น่านน้ำที่บรรดาเรือใช้เดินทางระหว่างทะเลดำกับทะเลอาซอฟ ไม่ได้รับความเสียหาย
ภาพที่โพสต์โดยคณะกรรมการสืบสวนแห่งรัสเซีย เป็นภาพสะพานถนนขาดไปเลนหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งยังคงอยู่สภาพเดิมอยู่ แต่มีรอยร้าว ส่วนภาพอื่นๆ ที่บันทึกจากระยะไกลพบเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นจากสะพาน
มีคาอิโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน โพสต์ทางทวิตเตอร์ภาพส่วนหนึ่งของสะพานที่กำลังจมน้ำ และเขียนข้อความว่า "ไครเมีย สะพาน จุดเริ่มต้น" แต่ไม่ได้ระบุว่ากองกำลังยูเครนอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผิดกฎหมายต้องถูกทำลาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกขโมยไปต้องกลับคืนมาสู่ยูเครน ทุกสิ่งทุกอย่างที่รัสเซียยึดครองเอาไว้ต้องถูกขับไล่ออกไป” โปโดลยัคเขียน
มอสโกอ้างอิงไครเมีย ซึ่งคนส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย ในฐานะส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์และของรักของหวงของรัสเซีย โดยเฉพาะในปีนี้ คาดหมายว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวรัสเซียจำนวนมาก เนื่องจากเชื่อว่ามันมีความปลอดภัยจากสงคราม
คิริล สเตรมูซอฟ รองผู้บริหารแคว้นเคอร์ซอน ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย เชื่อว่าเหตุระเบิดสะพาน "จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสบียงทหารมากเท่าไหร่ แต่จะก่อปัญหาต่างๆ ด้านโลจิสติกส์สำหรับไครเมีย"
อย่างไรก็ตาม มีโคลา เบไลสคอฟ จากสถาบันศึกษายุทธศาสตร์แห่งยูเครน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดีในกรุงเคียฟ กล่าวว่าสะพานเคิร์ช เป็นสิ่งที่กองกำลังผู้รุกรานรัสเซียไม่อาจหาอะไรมาทดแทนได้ และหากมันถูกตัดขาด "แนวหน้าทางใต้ทั้งหมดของรัสเซียจะถูกบดขยี้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย"
แม้กองกำลังรัสเซียยึดชายฝั่งยาวเหยียดของยูเครนที่เชื่อมต่อแคว้นเคอร์ซอนและไครเมียกับรัสเซีย แต่ทาง เบไลสคอฟ มองว่าการเชื่อมโยงด้านการขนส่งดังกล่าวไม่ค่อยดีนัก และทางรัสเซียคงอยากส่งกำลังเสริมไปยังเคอร์ซอน ข้ามสะพานแห่งนี้ผ่านทางแหลมไครเมียมากกว่า
การรถไฟของรัสเซียเผยว่าจากนี้ขบวนรถไฟที่มุ่งหน้าไปยังไครเมียจะได้รับการตรวจสอบเป็นพิเศษ และพวกเขากำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลเพื่อหาหนทางที่ดีที่สุดในการส่งมอบสินค้าไปยังแหลมไครเมีย
เซอร์เก อาสก์โยนอฟ ผู้ว่าการแคว้นไครเมีย ระบุว่า "เขาต้องการรับประกันความอุ่นใจ ว่าจะมีการจัดเตรียมเชื้อเพลิงและอาหารไว้อย่างเต็มพิกัดแก่ประชาชนในสาธารณรัฐไครเมีย เรามีเชื้อเพลิงใช้มากกว่า 1 เดือนและมีอาหารมากกว่า 2 เดือน" อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพลังงานรัสเซียกล่าวผ่านเทเลแกรมว่าไครเมีย มีเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์เหลือใช้เพียง 15 วัน
ผู้ว่าการเมืองเซวาสโตโพล ในไครเมีย ในฐานะที่ตั้งกองเรือทะเลดำของรัสเซีย ก็ออกสร้างความอุ่นใจแก่ประชาชนเช่นกัน "เราไม่ได้ถูกตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่" มิคฮาอิล ราซวอซซาเยฟ โพสต์บนเทเลแกรม "จงอยู่ในความสงบ อย่างตื่นตระหนก"
(ที่มา : รอยเตอร์)