มอสโกในวันพุธ (28 ก.ย.) ตั้งท่าเตรียมผนวกพื้นที่อันกว้างขวางของยูเครนในเร็ววัน หลังเผยแพร่ผลประชามติที่แสดงให้เห็นว่าประชาชนใน 4 แคว้นที่อยู่ภายใต้การยึดครองของมอสโกบางส่วนสนับสนุนรวมดินแดนกับรัสเซีย เปิดทางสำหรับปรับเปลี่ยนจาก "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" เป็น "ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย"
บริเวณจัตุรัสแดงของกรุงมอสโก มีการขึ้นจอวิดีโอขนาดยักษ์ พร้อมกับบิลบอร์ด อ้างว่า "โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาปอริซเซีย เคอร์ซอร์ - รัสเซีย!"
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อาจประกาศเกี่ยวกับการผนวกดินแดนในการปราศรัยหนึ่งภายในไม่กี่วันนี้ เพียงแค่ 1 สัปดาห์ หลังเขารับรองการจัดทำประชามติ สั่งระดมทหารกองหนุน และขู่ปกป้องดินแดนรัสเซียด้วยอาวุธนิวเคลียร์ถ้าจำเป็น
พวกผู้บริหารที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย ของ 4 แคว้นของยูเครน ในวันพุธ (28 ก.ย.) ได้ร้องขอ ปูติน อย่างเป็นทางการ ให้ผนวกพวกเขาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รัสเซียบางรายบ่งชี้ อาจถือได้ว่าเป็นการผนวกอย่างเป็นทางการแล้ว "ผลประชามติชัดเจนมาก ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ยินดีต้อนรับสู่รัสเซีย" ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดี ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย ระบุบนเทเลแกรม
บรรดาเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซีย ได้จัดทำประชามติเป็นเวลา 5 วัน ในแคว้นต่างๆ ดังกล่าวทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน ซึ่งมีพื้นที่คิดเป็นสัดส่วน 15% ของดินแดนยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พวกชาวบ้านซึ่งหลบหนีไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของยูเครน ให้สัมภาษณ์ว่าประชาชนถูกบังคับให้ลงคะแนนบนท้องถนน โดยมีเจ้าหน้าที่กวัดแกว่งปืนข่มขู่ ในขณะที่คลิปวิดีโอหนึ่งพบเห็นพวกเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย ถือหีบบัตรลงคะแนนไปเคาะประตูบ้านทีละหลัง และมีกลุ่มชายติดอาวุธติดตามไปด้วย
รัสเซียบอกว่า การลงคะแนนครั้งนี้เป็นไปด้วยความสมัครใจ ภายใต้กรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ และมีประชาชนออกมาใช้สิทธิใช้เสียงจำนวนมาก แม้ประชามติผนวกดินแดนครั้งนี้ถูกปฏิเสธจากทั่วโลก เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่มอสโกยึดแหลมไครเมียมาจากยูเครนในปี 2014
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน หาทางระดมแรงสนับสนุนจากนานาชาติ ในการต่อต้านความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะผนวกดินแดน ระหว่างพุดคุยทางโทรศัพท์กับบรรดาผู้นำต่างชาติ ในนั้นรวมถึงสหราชอาณาจักร แคนาดา เยอรมนี และตุรกี
สหรัฐฯ บอกว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะกำหนดบทลงโทษทางเศรษฐกิจเล่นงานมอสโก ตอบโต้การจัดประชามติ เพิ่มเติมจากมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ก่อนหน้านี้ที่กำหนดเล่นงานรัสเซียมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ครั้งเปิดฉากรุกรานรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ปฏิบัติการที่ทำลายเมืองต่างๆ และเข่นฆ่าผู้คนไปหลายพันชีวิต
"เราจะเดินหน้าทำงานกับพันธมิตรและคู่หู กดดันรัสเซียให้หนักหน่วงขึ้นกว่าเดิม เช่นเดียวกับบุคคลและองค์กรต่างๆ ที่ช่วยสนับสนุนความพยายามของรัสเซียในการยึดดินแดน" เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
พวกผู้บริหารของสหภาพยุโรปเสนอคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมเช่นกัน แต่บรรดาชาติสมาชิก 27 ประเทศของทางกลุ่ม จำเป็นต้องก้าวผ่านความเห็นต่าง ถึงจะสามารถกำหนดมาตรการคว่ำบาตรมอสโกได้
เดนิส ปูชิลิน ผู้นำที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียในแคว้นโดเนตสก์ บอกว่าเขาอยู่ระหว่างเดินทางไปยังมอสโก เพื่อดำเนินกระบวนการทางกฎหมายให้เสร็จสมบูรณ์ สำหรับเข้าเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนรัสเซีย
"ตอนนี้เรากำลังเคลื่อนสู่ขั้นใหม่ของปฏิบัติการด้านการทหาร" เขากล่าว ท่ามกลางข่าวลือว่า ปูติน เตรียมเปลี่ยนแปลงสถานะของสิ่งที่เขาเคยเรียกมาตั้งแต่ต้นว่า "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" เป็น "ปฏิบัติการตอบโต้ก่อการร้าย"
เจ้าหน้าที่รัสเซียเคยประกาศกร้าวว่าการโจมตีใส่ดินแดนผนวกใดๆ จะเท่ากับเป็นการโจมตีผืนแผ่นดินของรัสเซีย
ปูติน ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ หลังกองกำลังรัสเซียประสบความปราชัยอันน่าตกตะลึงในแคว้นคาร์คิฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ในช่วงต้นเดือนกันยายน โดยที่ทหารยูเครนทวงคืนเมืองและหมู่บ้านต่างๆ หลายสิบแห่ง นอกจากนี้ เขายังประกาศระดมทหารกองหนุนหลายแสนนายเพื่อสู้รบ และเตือนอีกรอบเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการใช้อาวุธนิวเคลียร์
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน เผยว่ารัสเซียจำเป็นต้องเดินหน้าสู้รบต่อไป จนกว่าจะควบคุมแคว้นโดเนสตก์ได้ทั้งหมด ในขณะที่ราวๆ 40% ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน และบางจุดนั้นเป็นหนึ่งในสมรภูมิที่มีการสู้รบหนักหน่วงที่สุดของสงคราม
(ที่มา : รอยเตอร์)