ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเมื่อวันพุธ(5ต.ค.) คาดหมายว่าสถานการณ์ใน 4 แคว้นยูเครน ที่เครมลินเพิ่งผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจะมี "เสถียรภาพ" หลังมอสโกประสบความพ่ายแพ้ทางทหารหลายสมรภูมิและสูญเสียเมืองหลักๆหลายแห่งคืนแก่เคียฟ ขณะที่ทางโฆษกสำทับแคว้นเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียไปตลอดกาล
นอกจากนี้แล้ว ปูติน ยังสั่งให้การให้รัฐบาลของเขาเข้าควบคุมโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของยุโรป ในแคว้นซาปอริซเซีย ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ในระหว่างที่ ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูสากล กำลังเดินหน้าไปยังกรุงเคียฟ เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ ยูเครน อ้างว่าประสบชัยชนะเหลือทหารรัสเซียในหลายพื้นที่ในแคว้นลูฮันสก์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ แม้ทางเครมลินประกาศกร้าวจะทวงดินแดนที่ถูกยูเครนยึดกลับไปในปฏิบัติการโจมตีสายฟ้าแลบในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังยูเครน ที่ได้รับแรงหนุนจากอาวุธของตะวันตก สามารถไล่ต้อนทหารรัสเซียจนล่าถอยออกจากเมืองและหมู่บ้านต่างๆหลายแห่งในแคว้นเคอร์ซอน รวมถึงในแคว้นลูฮันสก์และแคว้นโดเนตสก์ ป้อมปราการของกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโก ทางภาคตะวันออกของยูเครน
ล่าสุดประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวในช่วงค่ำวันพุธ(5ต.ค.) กองกำลังของเขายึดหมู่บ้านต่างๆในแคว้นเคอร์ซอน คืนจากทหารรัสเซีย ได้อีก 3 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ปูติน กล่าวกับบรรดาครูรัสเซียระหว่างวิดีโอคอลล์ที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ว่า "เรากำลังดำเนินการบนสมมุติฐานที่ว่าสถานการณ์ในดินแดนใหม่ทั้งหลายจะมีเสถียรภาพ"
กระนั้นอีกด้านหนึ่ง อันเดร คาร์โตโปลอฟ ประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมของสภาผู้แทนราษฏรรัสเซีย เรียกร้องเจ้าหน้าที่ทหารบอกความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาคสนามในยูเครน หลังจากประสบความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง
"เราจำเป็นต้องหยุดโกหก" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว "รายงานของกระทรวงกลาโหมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผู้คนรู้ดี ประชาชนของเราไม่ได้โง่ มันอาจนำมาซึ่งการสูญเสียความน่าเชื่อถือ"
ในวันพุธ(5ต.ค.) ปูตินลงนามรับรองการผนวกดินแดน 4 แคว้นของยูเครนอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ช่วงหลายวันนี้กองกำลังรัสเซียต้องถอยร่นครั้งใหญ่และเหลือพื้นที่ยึดครองน้อยลงก็ตาม ถือเป็นกระบวนการทางกฎหมายขั้นสุดท้าย หลังจากสภาสูงและสภาล่างของรัสเซียให้การรับรองแผนการผนวกไปแล้วก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ปูติน เริ่มต้นพิธีผนวกดินแดน ด้วยการขู่ทางนิวเคลีร์รอบใหม่ โดยประกาศปกป้องดินแดนที่เพิ่งผนวกสดๆร้อนๆ ด้วยสรรพกำลังทั้งหมดที่มี "ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกแล้ว มันเป็นการเลือกที่ชัดเจน นี่คือเจตจำนงของประชาชนหลายล้านคน" พร้อมประกาศกร้าวว่าพลเมืองของ 4 แคว้นยึดครองจะเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย "ตลอดกาล"
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน ในวันพุธ(5ต.ค.) กล่าวว่ามอสโกจะทวงดินแดนที่สูญเสียแก่เคียฟภายในแคว้นยึดครองกลับมา พร้อมสำทับว่าดินแดนเหล่านั้นจะเป็นของรัสเซียไปตลอดกาลและจะไม่มีวันหวนคืน
4 แคว้นดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยโดเนตสก์ เคอร์ซอน ลูฮันสก์และซาปอริซเซีย จะก่อแนวกันชนทางภาคพื้นระหว่างรัสเซียและแหลมไครเมีย ซึ่งรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 และเมื่อรวมทั้ง 5 แคว้น มันคิดเป็นสัดส่วนราว 20% ของดินแดนยูเครน
ความเคลื่อนไหวข่มขู่ทางนิวเคลียร์ ระดมทหารกองหนุนเข้าสู่สงครามที่ลากยาวมานานกว่า 7 เดือนในยูเครน เช่นเดียวกับการผนวก 4 แคว้นของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน กระตุ้นการตอบโต้ทางตะวันตกในทันที โดยล่าสุดทางสหภาพยุโรปได้อนุมัติขั้นสุดท้ายมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่กำหนดเล่นงานรัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มาตรการต่างๆนั้นรวมไปถึงการกำหนดข้อจำกัดเพิ่มเติมในด้านการค้าผลิตภัณฑ์เหล็กและเทคโนโยลีกับรัสเซีย และกำหนดเพดานราคาน้ำมันสำหรับน้ำมันดิบรัสเซียที่ส่งมอบไปยังประเทศที่ 3 ผ่านบริษัทประกันยุโรป เพื่อให้การคว่ำบาตรของทางอียูมีความสอดคล้องกับสหรัฐฯ
นอกเหนือจากนี้ มาตรการคว่ำบาตรยังเล็งเป้าเล่นงานบุคคลในกระทรวงกลาโหมรัสเซียเพิ่มเติม เช่นเดียวกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชามติของมอสโกในการผนวกดินแดนทางภาคตะวันออกของยเครน และบรรดาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร
เครมลินผนวกแคว้นที่ 4 เข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน หลังจัดทำประชามติด้วยความเร่งรีบ เรียกเสียงประณามจากเคียฟและพันธมิตรตะวันตกว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ยืนยันว่าพื้นที่ไหนบ้างของแคว้นเหล่านั้น ที่ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
กองกำลังของรัสเซียไม่ได้ควบคุมเคอร์ซอนและซาปอริซเซียอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และเมื่อเร็วๆนี้ก็สูญเสียถิ่นฐานหลายแห่งในโดเนตสก์
จากแผนที่สมรภูมิรบล่าสุดของมอสโกเอง พบว่าเวลานี้ทหารรัสเซียได้ถอยร่นออกจากหลายพื้นที่ในเคอร์ซอน ในนั้นรวมถึงตามชายฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปร ส่วนในคาร์คิฟ พบว่ากองกำลังมอสโกถอยร่นออกจากริมชายฝั่งทางตะวันออกของแม่น้ำออสกิลเกือบหมดแล้ว เปิดทางให้ทหารยูเครนมีโอกาสโจมตีแนวกันชนหลักด้านการขนส่งและเสบียงของกองทัพรัสเซีย
(ที่มา:เอเอฟพี/การ์เดียน)