xs
xsm
sm
md
lg

Weekend Focus : โลกกังขา ‘รัสเซีย’ ผนวกดินแดน หลังยูเครนรุกไม่หยุด จับตา ‘ปูติน’ หันพึ่งนิวเคลียร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทหารยูเครนทำพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาที่เมืองลีมาน (Lyman) เมื่อวันที่ 4 ต.ค.
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ลงนามในกฎหมายผนวก 4 เขตยึดครองในยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการ ขณะที่กองทัพยูเครนรุกไล่ต้อนทหารรัสเซียจนสามารถยึดดินแดนทางตะวันออกและใต้กลับคืนมาได้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก่อให้เกิดคำถามว่าการผนวกดินแดนครั้งนี้จะมีผลถาวรอย่างที่ ปูติน ต้องการจริงหรือไม่ และมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่ผู้นำหมีขาวจะตัดสินใจนำ “อาวุธนิวเคลียร์” มาใช้ในสงคราม

เว็บไซต์รัฐบาลรัสเซียเผยแพร่เอกสารทางกฎหมายว่าด้วยการผนวกดินแดนราวๆ 18% ของยูเครนเมื่อเช้าวันพุธ (5 ต.ค.) หลังจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภามีมติรับรองการผนวกดินแดนบางส่วนของโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคียร์ซอน และซาปอริซเซีย เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียโดยสมบูรณ์ ตามหลังผลประชามติที่ยูเครนและตะวันตกประณามว่าเป็น “ประชามติจอมปลอม”

การผนวกดินแดนครั้งนี้ยังทำให้อาณาเขตของรัสเซียถูกขยายกว้างขวางออกไปมากที่สุดในรอบกว่า 50 ปี และเมื่อบวกกับ “แหลมไครเมีย” ที่ยึดไปเมื่อปี 2014 ก็เท่ากับว่าในตอนนี้มีดินแดนยูเครนถูกรัสเซียผนวกแล้วไม่ต่ำกว่า 22% ของทั้งประเทศ

แม้ดินแดนที่รัสเซียอ้างว่าผนวกแล้วนั้นจะยังไม่มีขอบเขตชัดเจน แต่ทำเนียบเครมลินยืนยันจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องพื้นที่ทุกตารางนิ้วของรัสเซียไว้ และไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์

ระหว่างพิธีลงนามผนวกดินแดนซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบเครมลินเมื่อวันศุกร์ที่ 30 ก.ย. ปูติน ประกาศว่ารัสเซีย “ไม่มีวัน” จะคืนดินแดนให้ยูเครนอย่างแน่นอน ขณะที่รัฐสภารัสเซียประกาศว่าพลเมืองในดินแดนที่ถูกผนวกแล้วจะได้รับหนังสือเดินทางรัสเซีย และธนาคารกลางรัสเซียจะเข้าไปกำกับดูแลเพื่อให้เกิดเสถียรภาพทางการเงิน รวมถึงประกาศใช้ “รูเบิล” เป็นสกุลเงินหลัก

ยูเครนยืนกรานไม่ยอมรับการผนวกดินแดนเยี่ยงนักล่าอาณานิคม ขณะที่กองกำลังเคียฟซึ่งได้รับการสนับสนุนอาวุธจากสหรัฐฯ และยุโรปเริ่มพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ โดยสามารถชิงดินแดนกลับคืนมาได้นับแสนๆ ตารางไมล์ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงเมืองลีมัน (Lyman) ซึ่งเป็นปราการหลักทางตอนเหนือของแคว้นโดเนตสก์

การยึดคืนเมืองลีมันเปิดทางให้กองกำลังยูเครนรุกคืบเข้าไปในแคว้นลูฮันสก์ได้มากยิ่งขึ้น คุกคามเส้นทางลำเลียงเสบียงไปยังดินแดนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของมอสโก ซึ่งในบางพื้นที่นั้นเป็นสมรภูมิที่มีการสู้รบนองเลือดที่สุดของสงครามในช่วงเดือน มิ.ย. และ ก.ค.ที่ผ่านมา


ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แถลงเมื่อค่ำวันอังคาร (4) ว่า ตลอด 1 สัปดาห์ที่แล้ว กองกำลังเคียฟสามารถทวงคืนหมู่บ้านได้สิบกว่าแห่งในพื้นที่ทางตะวันออกและใต้ที่รัสเซียประกาศผนวก ขณะที่กองทัพยูเครนระบุในวันพุธ (4) ว่า พวกเขายึดหมู่บ้านในแคว้นเคียร์ซอนกลับคืนมาได้อีกหลายแห่ง โดยศูนย์บัญชาการปฏิบัติการภาคใต้ (Operation Command South) ระบุว่าตอนนี้ธงชาติยูเครนถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาอีกครั้งในอย่างน้อย 7 หมู่บ้านที่เคยโดนรัสเซียบุกยึด

ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลหมีขาวชี้แจงว่า ประกาศผนวกดินแดนกับข้อเท็จจริงที่ว่าทหารรัสเซียพ่ายแพ้จนต้องถอยร่นออกจากเขตยึดครองหลายแห่ง “ไม่ใช่เรื่องที่ขัดแย้งกัน” แต่อย่างใด และท้ายที่สุดแล้วดินแดนเหล่านั้นจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย “ตลอดกาล”

ปูติน ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธ (5) ว่า รัสเซียจะทำให้ดินแดนที่ถูกผนวกกลับมา “มีเสถียรภาพ” และเริ่มต้นการพัฒนาอย่างสันติโดยเร็วที่สุด ซึ่งเหมือนจะเป็นการยอมรับกลายๆ ว่า เวลานี้มอสโกยังคงเผชิญความท้าทายในการที่จะควบคุมดินแดนเหล่านั้นให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

สหภาพยุโรป (อียู) ได้อนุมัติมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดใหม่เมื่อวันพุธ (5) โดยระบุว่าเป็นการตอบโต้ที่มอสโกขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ เรียกระดมกำลังพลอีก 300,000 นายเพื่อยกระดับปฏิบัติการทางทหาร อีกทั้งยังประกาศผนวกดินแดนบางส่วนของยูเครนโดยมิชอบ

บทลงโทษของอียูรอบนี้พุ่งเป้าจำกัดการค้าผลิตภัณฑ์เหล็กและสินค้าไฮเทคกับรัสเซีย รวมถึงกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียตามอย่างสหรัฐฯ เพื่อที่จะลดทอนรายได้ของรัสเซียลง นอกจากนี้ ยังมีการขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำประชามติผนวกดินแดนในยูเครนตะวันออก และบุคคลที่มีส่วนช่วยเหลือให้รัสเซียหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร

ซากรถถังและยานเกราะรัสเซียซึ่งถูกทำลายยับเยินในเมืองลีมาน (Lyman) ทางตอนเหนือของแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งกองกำลังยูเครนปลดปล่อยจากการควบคุมของรัสเซียได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
‘ปูติน’ จะกดปุ่มนิวเคลียร์หรือไม่?

อีกหนึ่งคำถามสำคัญที่นักวิเคราะห์เฝ้าจับตาดูอยู่ก็คือ คำขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ของ ปูติน มีโอกาสเป็นจริงมากน้อยเพียงใด?

ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากยังประเมินว่ามีโอกาสค่อนข้าง “น้อย” ที่ ปูติน จะนำอาวุธในคลังแสงนิวเคลียร์ของรัสเซียซึ่งมีขนาดใหญ่โตที่สุดในโลกออกมาใช้ ขณะที่สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ก็ “ยังไม่พบสัญญาณ” ว่ามอสโกจะเปิดสงครามนิวเคลียร์เร็วๆ นี้

กระนั้นก็ตาม เมื่อ ปูติน ประกาศจะ “ใช้ทุกวิธี” เพื่อปกป้องดินแดนรัสเซีย อีกทั้งยังยกเรื่องที่สหรัฐฯ “เคยสร้างแบบอย่าง” ในการทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยิ่งทำให้คำขู่ของเขาดูจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป

ทำเนียบขาวเตือนรัสเซียให้ระวัง “ผลลัพธ์หายนะ” หาก ปูติน นำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ในยูเครน แต่ผู้นำหมีขาวจะรับฟังหรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็ยังเดาไม่ออก

“ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ปูติน มีแนวโน้มจะใช้อาวุธนิวเคลียร์จริงๆ.. สิ่งที่เราทำได้คือเฝ้าระวังอย่างจริงจัง และคอยจับตาดูสัญญาณการเตรียมการต่างๆ” วิลเลียม เบิร์นส ผู้อำนวยการ CIA ให้สัมภาษณ์กับกับซีบีเอสนิวส์

ระเบิดปรมาณู 2 ลูกที่สหรัฐฯ ทิ้งลงเหนือเมืองฮิโรชิมา และนางาซากิเมื่อเดือน ส.ค. ปี 1945 และส่งผลให้มีชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตทันทีกว่า 210,000 คน ยังคงเป็นโศกนาฏกรรมที่เตือนใจคนทั่วโลกให้ตระหนักถึงหายนะจากนิวเคลียร์ และนับแต่นั้นมายังไม่เคยมีชาติใดนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ในสงครามอีกเลย

นักวิเคราะห์เชื่อว่า ปูติน เองคงไม่อยากจะได้ชื่อว่าเป็นผู้นำโลกคนที่ 2 ถัดจากอดีตประธานาธิบดี แฮร์รี เอส. ทรูแมน ของสหรัฐฯ ที่นำอาวุธมหาประลัยนี้ออกมาใช้เข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์

รัสเซียแถลงเมื่อวันอังคาร (4) ว่า พวกเขาไม่ปรารถนาจะเข้าร่วม “การใช้วาทะตอบโต้เรื่องนิวเคลียร์” ที่ฝ่ายตะวันตกโหมกระพืออยู่ตอนนี้ หลังสื่ออังกฤษรายงานว่า ขบวนรถไฟที่รัสเซียใช้ขนส่งยุทโธปกรณ์นิวเคลียร์กำลังออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังทิศทางของยูเครน นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ส่งข่าวกรองเตือนรัฐสมาชิกให้เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำนิวเคลียร์ “เบลโกร็อด” ของรัสเซีย ซึ่งเกรงกันว่าอาจจะมีแผนยิงทดสอบซูเปอร์ตอร์ปิโด “โพไซดอน” โดรนใต้น้ำติดหัวรบนิวเคลียร์ซึ่งถูกตั้งฉายาไว้อย่างน่ากลัวว่า “อาวุธแห่งวันสิ้นโลก” (the weapon of the Apocalypse) และว่ากันว่าสามารถทำให้เกิดคลื่นสึนามิสูงถึง 1,600 ฟุตเข้าทำลายล้างเมืองชายฝั่งที่อยู่โดยรอบได้


กำลังโหลดความคิดเห็น