สภาพยุโรปในวันพฤหัสบดี (6 ต.ค.) เห็นชอบขั้นสุดท้ายมาตรการคว่ำบาตรรอบ 8 ซึ่งกำหนดเล่นงานรัสเซีย ลงโทษกรณีรุกรานยูเครน อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียที่ขนส่งทางทะเล ที่อยู่ภายในแพกเกจคว่ำบาตรดังกล่าว อยู่ระหว่างรอดำเนินการให้สอดคล้องกับกลุ่มจี7 ท่าทีลังเลที่เกิดขึ้น หลังจากมอสโกขู่ว่าอาจปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติม ชดเชยผลกระทบจากมาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมัน
มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่นี้จะสกัดการส่งออกจากรัสเซียมายังอียู คิดเป็นมูลค่า 7,000 ล้านยูโร ในนั้นรวมถึงเหล็กและสบู่ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อียู
นอกจากนี้ จะมีการหยุดส่งออกจากอียูไปยังรัสเซียเพิ่มเติมเช่นกัน ในนั้นรวมถึงกล้องและหน่วยประมวลผลกลาง (โปรเซสเซอร์) เช่นเดียวกับขึ้นบัญชีดำบุคคลและองค์กรต่างๆ อีก 37 ราย ในนั้นรวมถึงบุคคลที่ดำเนินการการลงประชามติ ในสิ่งที่ทางตะวันตกประณามว่าเป็นประชามติผนวกดินแดนที่น่าอดสูของมอสโก
ในส่วนของมาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันขนส่งทางทะเลของรัสเซีย ที่ส่งมอบไปยังประเทศที่ 3 ทางอียูจะดำเนินการในทิศทางเดียวกับกับสหรัฐฯ และบรรดา 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี7) ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว เห็นพ้องในหลักการเดินหน้าความเคลื่อนไหวดังกล่าว
"การบังคับใช้เพดานราคาน้ำมันยังคงอยู่ระหว่างหารือ เราจำเป็นต้องแน่ใจว่ามันจะได้ผลอย่างแท้จริง ต้องมีการตรวจสอบต่างๆ เพื่อผู้ปฏิบัติการ เพื่อแสดงให้เห็นว่าราคาจะอยู่ต่ำกว่าเพดานจริงๆ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลไม่ใช่เรื่องง่าย" เจ้าหน้าที่อียูรายหนึ่งกล่าว
เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวว่า มันควรมีความยืดหยุ่น ต่ำกว่าตลาด แต่อยู่ในระดับที่รัสเซียยังคงต้องการขาย
จากความเห็นดังกล่าว นั่นหมายความว่าการตัดสินใจของอียูเป็นเพียงแค่ก้าวย่างแรกของแผนจำกัดเพดานราคาน้ำมัน มากกว่าที่จะบังคับใช้มันจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อตกลงใดๆ ของจี7 ในด้านกลไกราคาจะยังคงต้องผ่านความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากชาติสมาชิกทั้งหมด 27 ประเทศของอียูเสียก่อน
แผนจำกัดเพดานราคานี้จะครอบคลุมทั้งในด้านประกันภัย เงินทุนและการขนส่งทางทะเลน้ำมันดิบรัสเซียไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมจากการตัดสินใจของอียูเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน ที่มาตรการแบนจะครอบคลุมเฉพาะ 2 อย่างแรกเท่านั้น
ในขณะที่บริษัทที่ปรึกษายูเรเซีย มองว่าแพกเกจรอบนี้ดูจะอ่อนลงเมื่อเทียบกับมาตรการคว่ำบาตรชุดก่อนๆ แต่ทางบรรดาผู้แทนทูตและเจ้าหน้าที่อียู บอกว่าแนวทางใหม่นี้จะก่อผลกระทบที่กว้างขวางกว่าเดิม และยังลดความเสี่ยงของภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกด้วย
บรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่เรียกว่าโอเปกพลัส ซึ่งรวมถึงซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย เห็นพ้องลดกำลังผลิตเมื่อวันพุธ (5 ต.ค.) และมอสโกบอกว่าอาจปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติม เพื่อชดเชยผลกระทบในทางลบจากมาตรการจำกัดราคาของตะวันตก
เจ้าหน้าที่อียูบอกว่าข้อจำกัดใหม่ในด้านการค้าสินค้าต่างๆ กับรัสเซีย หมายความว่ายอดการนำเข้าและส่งออกไปยังรัสเซียของอียู จะลดลงเกือบ 60% เมื่อเทียบกับระดับการนำเข้าและส่งออก ช่วงก่อนหน้าที่มอสโกเปิดฉากรุรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์
มาตรการนี้ยังได้ห้ามชาวยุโรปนั่งเป็นบอร์ดบริหารของบริษัทต่างๆ ที่มีรัฐรัสเซียเป็นเจ้าของ ตัดขาดการเทรดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมด และกำหนดให้การหลบหลีกมาตรการคว่ำบาตร เป็นพื้นฐานการถูกขึ้นบัญชีดำโดยอียู
กระนั้นก็ตาม มาตรการล่าสุดนี้ยังคงมีข้อยกเว้นบางอย่าง โดยอียูยังไม่หยุดนำเข้าเพชรจากรัสเซีย หรือระงับความร่วมมือกับขอบเขตพลังงานนิวเคลียร์ และอื่นๆ
(ที่มา : รอยเตอร์)