อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเมื่อวันพุธ(5ต.ค.) เตือนว่ามอสโกอาจปรับลดกำลังผลิตเพื่อชดเชยผลกระทบทางลบจากมาตรการจำกัดเพดานราคาที่กำหนดโดยตะวันตก ความเคลื่อนไหวที่จะทำให้ราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้น ในขณะเดียวกันทบวงพลังงานสากลส่งเสียงเตือนไปยังอียู ว่าอาจเผชิญวิกฤตขาดแคลนพลังงานสาหัสสากรรจ์กว่านี้ในปีหน้า เนื่องจากใช้คลังสำรองที่มีอยู่หมดไปแล้วในช่วงฤดูหนาวปีนี้ ท่ามกลางความกังวลว่ามาตรการจำกัดเพดานราคา จะทำให้ควานหาอุปทานได้ยากลำบากกว่าเดิม
แผนกำหนดเพดานราคาที่เห็นพ้องกันโดยกลุ่มประเทศมั่งคั่งจี 7 เรียกร้องบรรดาประเทศสมาชิก ปฏิเสธให้บริการด้านประกันภัย เงินทุน โบรกเกอร์ การเดินเรือและบริการอื่นๆ แก่สินค้าน้ำมันที่มีราคาเหนือกว่าเพดานราคาที่กำหนดไว้สำหรับน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันต่างๆ
ในส่วนของสหภาพยุโรปก็กำลังมองหาความเป็นไปได้ของการกำหนดเพดานราคาน้ำมัน ให้สอดคล้องกับที่ทางจี7 เห็นพ้องต้องกัน จากการเปิดเผยเหล่าคณะผู้แทนทูตเมื่อเดือนที่แล้ว
โนวัค ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ว่า "เราเชื่อว่าเครื่องมือนี้ละเมิดทุกกลไกของตลาด มันจะอันตรายอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันโลก เราจะพร้อมสำหรับลดกำลังผลิต(โดยจงใจ)" ส่วนสำนักข่าวทาสนิวส์ อ้างคำกล่าวของรองนายกรัฐมนตรีรายนี้ ระบุว่ารัสเซียจะผลิตน้ำมัน 530 ตัน(10.6ล้านบาร์เรลต่อวัน) ในปี 2022 และ 490 ล้านตันในปี 2023
เขาบอกว่ารัสเซียพร้อมป้อนอุปทานก๊าซไปยังยุโรปผ่านสายส่งหนึ่งของท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 2 ถ้าจำเป็น ท่อลำเลียงนี้ถูกสร้างในเดือนกันยายน 2021 แต่ถูกเยอรมนีระงับโครงการ ไม่กี่วันก่อนมอสโกยกพลรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์
โนวัค เน้นย้ำถ้อยแถลงของวังเครมลิน ที่บอกว่ารัสเซียจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการสืบสวนเหตุระเบิดในท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 1 และ 2 ที่ลอดใต้ทะเลบอลติก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่สายส่งหนึ่งในสายส่งแฝดของท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 2 ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ความคิดเห็นของโนวัค มีขึ้นในขณะที่หัวหน้าหน่วยงานพลังงานระหว่างประเทศในวันพุธ(5ต.ค.) ออกมาเตือนว่ายุโรปอาจเผชิญวิกฤตขาดแคลนพลังงานหนักหน่วงกว่านี้ในปีหน้า หลังจากผลาญคลังสำรองก๊าซธรรมชาติเพื่อให้ผ่านพ้นฤดูหนาวปีนี้
บรรดาประเทศต่างๆใยุโรป เติมเต็มคลังสำรองสู่ระดับราวๆ 90% ของความจุ หลังรัสเซียตัดอุปทานก๊าซ ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของทางตะวันตก ที่กำหนดเล่นงานมอสโกกรณีรุกรานยูเครน
ราคาก๊าซ ซึ่งพุ่งขึ้นต่อเนื่องมาหลายเดือน หลังการรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ ขยับลงมาเล็กน้อย แต่คาดหมายว่าจะเป็นการปรับลดในระยะสั้นๆ เนื่องจากประเทศต่างๆยังคงแย่งชิงจัดซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) และพลังงานทางเลือกอื่น เพื่อชดเชยพลังงานที่ส่งผ่านท่อลำเลียงของรัสเซีย
เพื่อสกัดความเจ็บปวด สหภาพยุโรปกำลังพิจารณากำหนดเพดานราคา ประเด็นที่ก่อความแตกแยกแก่ทางกลุ่มที่มีชาติสมาชิก 27 ประเทศ เนื่องจากบางชาติกังวลว่ามันอาจทำให้จัดหาอุปทานได้ยากขึ้นกว่าเดิม
ฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารของทบวงพลังงานสากล (IEA) ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส กล่าวว่า "ด้วยกักเก็บก๊าซได้แล้วเกือบ 90% ยุโรปจะรอดพ้นจากฤดูหนาวที่กำลังมาถึง ด้วยการมีรอยแผลถลอกบ้าง ตราบใดที่ไม่มีเรื่องประหลาดใจทางการเมืองหรือทางเทคนิคใดๆ"
อย่างไรก็ตามความท้าทายที่แท้จริงที่ยุโรปต้องเผชิญ จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่ก็เดือนมีนาคม ซึ่งถึงเวลาที่จำเป็นต้องเติมเต็มคลังสำรองอีกครั้ง หลังจากอุปสงค์ระดับสูงช่วงฤดูหนาวจะเผาผลาญคลังสำรองเหลือแค่ราวๆ 25%-30% "ฤดูหนาวนี้จะยากลำบาก แต่ฤดูหนาวปีหน้าก็อาจจะยากลำบากมากๆเช่นกัน" ไบรอลบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในฟินแลนด์
(ที่มา:รอยเตอร์)