เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกไปในทิศทางมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่นก่อนจะตกลงสู่ทะเลเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 ต.ค.) หลังจากสหรัฐฯ ส่ง “เรือบรรทุกเครื่องบิน” กลับเข้ามาในภูมิภาคอีกครั้ง ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกประชุมด่วนเพื่อหารือมาตรการตอบโต้การทดสอบขีปนาวุธแบบถี่ยิบของโสมแดงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือในรอบ 12 วัน และมีขึ้นตามหลังการยิงขีปนาวุธพิสัยปานกลาง (IRBM) ข้ามหมู่เกาะญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีเมื่อวันอังคาร (4) ซึ่งทำให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้เปิดฉากซ้อมยิงขีปนาวุธเพื่อข่มขวัญกลับบ้าง
“นี่คือครั้งที่ 6 แล้วในช่วงเวลาสั้นๆ หากนับตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย. มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้จริงๆ” นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเช้านี้
ปฏิบัติการยั่วยุดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 ชั่วโมง หลังจากรัฐบาลเปียงยางแถลงประณามสหรัฐฯ กรณีโร่ไปฟ้องคณะมนตรีความมั่นคงฯ เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “มาตรการตอบโต้อันชอบธรรมของกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือต่อการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ”
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือยังวิจารณ์วอชิงตันที่ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินกลับเข้ามายังคาบสมุทรเกาหลี โดยบอกว่าการทำเช่นนี้จะยิ่งทำให้สถานการณ์ “ล่อแหลม” มากขึ้น
เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน (USS Ronald Reagan) และกองเรือจู่โจมได้รับคำสั่งด่วนให้มุ่งหน้าเข้ามายังภูมิภาคนี้ เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือยิง IRBM ข้ามผ่านเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประณามการยิงขีปนาวุธระลอกล่าสุดของเกาหลีเหนือวันนี้ (6) ว่าเป็นการละเมิดคำสั่งห้ามของคณะมนตรีความมั่นคงฯ และยังก่อภัยคุกคามร้ายแรงต่อประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมโลก
อย่างไรก็ดี โฆษกสหรัฐฯ ย้ำว่าวอชิงตันยังพร้อมที่จะใช้แนวทางการทูตเสมอ และเรียกร้องให้โสมแดงเปิดเจรจากันอีกครั้ง
สหรัฐฯ ยังกล่าวหาจีนและรัสเซียวานนี้ (5) ว่ามีส่วน “ให้ท้าย” ผู้นำ คิม จองอึน โดยการใช้สิทธิ “วีโต” ขัดขวางมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของยูเอ็น
ประธานาธิบดี ยุน ซุกยอล แห่งเกาหลีใต้ ซึ่งมีกำหนดหารือทางโทรศัพท์กับ คิชิดะ ในวันนี้ (6) บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เกาหลีใต้จะปกป้องความมั่นคงของตนเองผ่านการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ และความร่วมมือกับญี่ปุ่น พร้อมเผยว่าเรือบรรทุกเครื่องบินของอเมริกาเดินทางเข้าสู่น่านน้ำเกาหลีใต้ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันพุธ (5)
ยาสุคาซุ ฮามาดะ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ระบุว่า ขีปนาวุธโสมแดงลูกแรกพุ่งออกจากฐานยิงไปไกล 350 กิโลเมตร และไต่ระดับความสูง 100 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน ส่วนลูกที่ 2 เดินทางได้ไกล 800 กิโลเมตร และขึ้นไปถึงความสูง 50 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน ซึ่งโตเกียวได้ยื่นประท้วงเกาหลีเหนือ “อย่างรุนแรง” ผ่านผู้แทนการทูตในปักกิ่งแล้ว
ทั้งนี้ ขีปนาวุธพิสัยใกล้ (SRBMs) ที่เกาหลีเหนืองัดมายิงทดสอบในระยะหลังๆ ถูกออกแบบให้สามารถบินในระดับต่ำด้วยวิถีโค้งน้อยลง (depressed trajectory) และมีการเปลี่ยนทิศทาง เพื่อให้ฝ่ายศัตรูยากแก่การตรวจจับและยิงทำลาย
ที่มา : รอยเตอร์
