เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกไปตกนอกชายฝั่งตะวันออกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (1 ต.ค.) ซึ่งนับเป็นการยิงขีปนาวุธรอบที่ 4 ของสัปดาห์นี้ ท่ามกลางบรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลีที่ยังคงทวีความร้อนระอุ
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเกาหลีเหนือมีขึ้น หลังจากที่กองทัพเรือสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ได้เปิดปฏิบัติการซ้อมรบต่อต้านเรือดำน้ำไตรภาคีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (30 ก.ย.) โดยเป็นการฝึกร่วม 3 ฝ่ายครั้งแรกในรอบ 5 ปี และหลังจากที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ของสหรัฐฯ เดินทางมาเยือนเกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้
คณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุว่า ขีปนาวุธทั้ง 2 ลูก ถูกยิงออกจากเมืองซูนัน (Sunan) ทางตอนเหนือของกรุงเปียงยาง คาดว่ามีพิสัยการยิงราว 350 กิโลเมตร และไต่ระดับความสูงขึ้นไปถึง 30 กิโลเมตรเหนือพื้นโลกความเร็วระดับ Mach 6
ทางด้านนายโทชิโระ อิโนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น อ้างข้อมูลจากหน่วยยามฝั่งซึ่งพบว่า มีขีปนาวุธทิ้งตัวอย่างน้อย 2 ลูก ถูกยิงมาจากเกาหลีเหนือ โดยขีปนาวุธเดินทางไปได้ไกล 400 และ 350 กิโลเมตรตามลำดับ และไต่ระดับความสูงถึง 50 กิโลเมตร
อิโนะ ยืนยันว่าโตเกียวได้ยื่นประท้วงเกาหลีเหนือผ่านช่องทางการทูตแล้ว และพบว่าเส้นทางของขีปนาวุธนั้นไม่คงที่ (irregular trajectory) ซึ่งดูเหมือนจะมีเจตนาเพื่อหลบหลีกระบบป้องกันภัยทางอากาศ
ด้านกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ระบุว่า ได้ทราบถึงการยิงขีปนาวุธครั้งนี้แล้ว และประเมินว่าไม่เป็นภัยคุกคามเฉพาะหน้าต่อบุคลากร ดินแดน และชาติพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่โสมแดงทดสอบขีปนาวุธ “ถี่” เช่นนี้บ่งบอกถึงความพยายามที่จะพัฒนาอาวุธที่มีประสิทธิภาพเพื่อประจำการ และฉวยโอกาสในช่วงที่โลกมุ่งความสนใจไปยังสงครามยูเครนและปัญหาอื่นๆ ทำให้การทดสอบอาวุธในเกาหลีเหนือดูเป็นเรื่อง “ปกติ”
“แม้เกาหลีเหนือจะมีความอ่อนแอภายในและถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติ ทว่าพวกเขายังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธให้มีความทันสมัยอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยจังหวะที่โลกกำลังแตกแยกจากการแข่งขันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และการที่รัสเซียผนวกดินแดนของยูเครน” ลีฟ-เอริค อีสลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยอีฮวา ในกรุงโซล ระบุ
ที่มา : รอยเตอร์
