มหาอำนาจโลกในวันอาทิตย์ (26 มิ.ย.) เห็นพ้องแบนการส่งออกทองคำจากรัสเซีย ระหว่างเปิดฉากการประชมจี 7 ซึ่งมีเป้าหมายใช้มาตรการใหม่ๆ เพื่อกำจัดแหล่งทุนในการทำสงครามของมอสโก และยกระดับศักยภาพการป้องกันตนเองของยูเครน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และบรรดาผู้นำจากชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก กำลังรวมตัวกันที่รีสอร์ตชลอสส์ เอลมอ ที่เชิงเขาซุกสปิตเซอ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี และจากนั้นทั้งหมดจะมุ่งหน้าสู่กรุงมาดริด เพื่อหารือกับพันธมิตรนาโต้ต่อไป
พวกผู้นำทั้งหลายกำลังหาทางร่วมมือกันช่วยเหลือยูเครนต้านทานการรุกรานของรัสเซีย ในขณะเดียวกัน ก็กำลังดิ้นรนรับมือกับผลลัพธ์ของสงครามที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ
"เราจำเป็นต้องจับมือกันไว้" ไบเดนบอกกับ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เจ้าภาพของการประชุม 3 วัน "ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย หวังเห็นความแตกแยกบางอย่างในนาโต้ และจี 7 แต่เราไม่ได้เป็นเช่นนั้นและเราจะไม่เป็นเช่นนั้น"
โชลซ์ ยกย่องความเป็นหนึ่งเดียวกันของตะวันตกเช่นกัน ซึ่งเขาให้คำจำกัดความว่า "เป็นสิ่งที่ปูตินไม่เคยคาดคิด" พร้อมระบุแต่ละชาติสมาชิกของจี 7 "จำเป็นต้องแบ่งปันความรับผิดชอบสำหรับรับมือกับความท้าทายต่างๆ อันเนื่องจากสงคราม"
ถ้อยแถลงแห่งความมุ่งมั่นมีขึ้นในขณะที่รัสเซียกลับมาโจมตีกรุงเคียฟอีกครั้ง ถือเป็นการหวนถล่มเมืองหลวงยูเครนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ปฏิบัติการโจมตีที่ ไบเดน ประณามว่า "ป่าเถื่อนยิ่งกว่าเดิม"
ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน เรียกร้องที่ประชุมจี 7 เห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียเพิ่ม และส่งมอบอาวุธหนักเพิ่มเติมแก่ยูเครน เพื่อเอาชนะลัทธิจักรวรรดินิยมอันน่าขยะแขยงของรัสเซีย
คาดหมายว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน จะส่งเสียงวิงวอนแบบเดียวกัน ครั้งที่เขาเข้าร่วมประชุมกับจี 7 ผ่านวิดีโอลิงก์ในวันจันทร์ (27 มิ.ย.)
ไล่ตั้งแต่เงินเฟ้อพุ่งทะยาน ไปจนถึงเค้ารางวิกฤตขาดแคลนอาหารและพลังงาน ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ที่เวลานี้เข้าสู่เดือนที่ 5 แล้ว ได้ฉุดให้โลกติดหล่มอยู่ในวิกฤตต่างๆ เหล่านั้น
นอกจากนี้ บรรดาผู้นำจี 7 กำลังเผชิญกับเค้ารางความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอย เช่นเดียวกับแรงกดดันเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน
ในความพยายามเพิ่มแรงกดดันใส่มอสโก จี 7 แแถลงว่าจะกำหนดให้การนำเข้าทองคำจากรัสเซียเป็นสิ่งต้องห้าม ในขณะที่สหรัฐฯ บอกว่าทองคำคือสินค้าส่งออกใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของรัสเซีย และเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับปูตินและคนใกล้ชิด
ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของพันธมิตรตะวันตกที่กำหนดมาตรการเล่นงานเศรษฐกิจรัสเซียหนักหน่วงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรและเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส บอกว่าตอนนี้พวกเขาเห็นโอกาส "พลิกสถานการณ์" ในยูเครน
ในการหาทางกำหนดมาตรการใหม่ๆ เพื่อบีบรัดปูติน มาครงเรียกร้องให้ชาติผู้ผลิตทั้งหลายกำหนดเพดานราคาน้ำมัน เพื่อจำกัดแหล่งรายได้ทางพลังงานของรัสเซียที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุว่า ปารีสสนับสนุนข้อเสนอของสหรัฐฯ สำหรับกำหนดเพดานราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาระบุว่า "มันจะทรงพลังมากกว่านี้ หากมาตรการนี้มาจากบรรดาชาติผู้ผลิตทั้งหลาย"
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหัฐฯ กล่าวว่าจี 7 จะหาทางทำให้ปูตินและเศรษฐกิจของรัสเซีย ชดใช้และได้รับผลสนองจากสงครามหนักหน่วงขึ้น "แต่ในขณะเดียวกัน มาตรการต่างๆ เหล่านั้นจะมีเป้าหมายลดความเป็นไปได้ที่จะก่อผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นและแนวทางที่ปูตินใช้พลังงานเป็นอาวุธให้เหลือน้อยที่สุด"
ผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในประเด็นที่การประชุมจี 7 มุ่งเน้นให้ความสำคัญ โดย โชลซ์ ระบุว่า "อัตราการเติบโตที่กำลังหดตัว เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบและความวุ่นวายทางห่วงโซ่อุปทาน คือภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวในยุคหลังโรคระบาดใหญ่"
(ที่มา : เอเอฟพี)
