ยอดขายน้ำมันรัสเซียที่ป้อนแก่อินเดีย เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50 เท่าในช่วง 3 เดือนหลังสุด และตอนนี้คิดเป็นสัดส่วน 10% ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของอินเดียแล้ว หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ตัวเลขที่มีขึ้นในขณะที่บรรดาพวกผู้นำกลุ่มจี 7 กำลังหาทางกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย เพื่อบั่นทอนแหล่งรายได้ของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ทว่ามันต้องพึ่งพิงความร่วมมือจากนิวเดลี และปักกิ่ง
หนังสือพิมพ์อินเดีย บิสซิเนส รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า "เวลานี้พวกเขาติดท็อปเท็นซัปพลายเออร์ของเรา"
มาตรการคว่ำบาตรที่ตะวันตกกำหนดเล่นงานรัสเซีย เปิดโอกาสให้โรงกลั่นต่างๆ ของอินเดีย สั่งซื้อน้ำมันรัสเซียเพิ่มมากขึ้นในราคาที่ลดกระหน่ำ หลังจากชาติยุโรปบางประเทศปลีกตัวออกห่างจากน้ำมันดิบรัสเซีย
ก่อนหน้าความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น น้ำมันรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนแค่ 0.2% ในปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของอินเดีย อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าแค่เพียงพฤษภาคมเดือนเดียว โรงกลั่นทั้งหลายของประเทศจัดซื้อน้ำมันดิบรัสเซียมากกว่า 25 ล้านบาร์เรล ซึ่งจากหลักหมายดังกล่าว ส่งผลให้รัสเซียแซงหน้า ซาอุดีอาระเบีย กลายเป็นผู้จัดหาอุปทานน้ำมันป้อนแก่อินเดียรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 เป็นรองเพียง อิรัก เท่านั้น
อินเดีย ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก ถูกตะวันตกกดดันอย่างหนักต่อกรณีที่พวกเขายังคงเดินหน้าจัดซื้อน้ำมันของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม นิวเดลี เพิกเฉยต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลว่าการนำเข้าเหล่านี้คิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยในความจำเป็นทั้งหมดของประเทศ
ในเดือนพฤษภาคม กระทรวงพลังงานของรัสเซียระบุว่า "การจัดซื้อพลังงานจากรัสเซียยังคงคิดเป็นสัดส่วนเล็กจิ๋ว เมื่อเทียบกับการบริโภคโดยรวมของอินเดีย"
รัฐบาลอินเดีย เรียกร้องให้แก้ปัญหาด้วยวิธีการทางการทูตในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน พวกเขาไม่ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานมอสโก และแสดงจุดยืนงดออกเสียงในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ในญัตติประณามปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย
การสั่งซื้อน้ำมันรัสเซียที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของอินเดีย มีขึ้นในขณะที่โลกตะวันตกกำหนดหาทางบั่นทอนแหล่งรายได้สำหรับทำสงครามของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในนั้นรวมถึงกรณีที่ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังอเมริกา ระบุเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐฯ อยู่ระหว่างพูดคุยกับแคนาดาและพันธมิตรอื่นๆ ในความพยายามหาทางจำกัดรายได้ทางพลังงานของรัสเซียเพิ่มเติม ด้วยการกำหนดเพดานราคาสำหรับน้ำมันรัสเซีย
ล่าสุด มีรายงานว่าบรรดาผู้นำกลุ่มจี 7 มีการพูดคุยสนทนา "อย่างสร้างสรรค์มาก" ในประเด็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะจำกัดเพดานราคาน้ำมันนำเข้าจากรัสเซีย สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวรัฐบาลเยอรมนีเปิดเผยในวันเสาร์ (25 มิ.ย.) ไมนานก่อนการประชุมซัมมิตจี 7 ประจำปี เป็นเวลา 3 วัน
ข้อเสนอนี้เป็นส่วนหนึ่งในประเด็นสนทนาที่กว้างขวางของจี 7 เกี่ยวกับแนวทางยกระดับกดดันเครมลิน ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน ที่โหมกระพือเงินเฟ้อทั่วโลก
คาดหมายว่า สงครามยูเครน วิกฤตพลังงาน ปัญหาขาดแคลนอาหารและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มืดมนลงเรื่อยๆ จะเป็นประเด็นสำคัญของที่ประชุม ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นที่รีสอร์ต Schloss Elmau ทางภาคใต้ของเยอรมนี
สหรัฐฯ แคนาดา และสหราชอาณาจักร ต่างห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซียไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนบรรดาผู้นำสหภาพยุโรปเห็นพ้องแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเช่นกัน แต่จะมีผลอย่างเต็มรูปแบบในช่วงสิ้นปี 2022 ส่วนหนึ่งในมาตรการลงโทษเครมลินต่อกรณีรุกรานยูเครน
อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาพลังงานที่พุ่งสูง ตะวันตกกังวลว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบอย่างแท้จริงต่อแหล่งขุมทรัพย์ในการทำสงครามของรัสเซีย เนื่องจากประเทศแห่งนี้กลับมีรายได้จากการส่งออกน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น แม้ปริมาณการส่งออกจะลดลงก็ตาม
มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียอาจช่วยคลี่คลายภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกดังกล่าว นอกจากนี้ มันยังจะช่วยหลีกเลี่ยงซ้ำเติมภาวะอุปทานตึงตัวและโหมกระพือเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มาตรการนี้ได้ผล มันจำเป็นต้องพึ่งพาความร่วมมือกับบรรดาผู้นำเข้ารายใหญ่ทั้งหลาย อย่างเช่นอินเดีย และจีน
(ที่มา : รอยเตอร์/อาร์ทีนิวส์)