สหรัฐฯ อยู่ระหว่างพูดคุยกับแคนาดาและพันธมิตรอื่นๆ ในความพยายามหาทางจำกัดรายได้ทางพลังงานของรัสเซียเพิ่มเติม ด้วยการกำหนดเพดานราคาสำหรับน้ำมันรัสเซีย ตามการเปิดเผยของเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังอเมริกาในวันจันทร์ (20 มิ.ย.) ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นไม่นานหลังจากมีรายงานว่า มอสโกได้กลายมาเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดไปยังจีน แทนที่ซาอุดีอาระเบีย
"เรากำลังพูดถึงเกี่ยวกับเพดานราคาหรือข้อยกเว้นทางราคา ที่จะเพิ่มเติมจากข้อจำกัดทางพลังงานที่ทางยุโรป สหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและอื่นๆ เสนอเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งจะช่วยฉุดราคาน้ำมันรัสเซียให้ลดต่ำลงและบั่นทอนรายได้ของปูตินให้ลดลง ในขณะเดียวกัน เป็นการเปิดทางอุปทานน้ำมันเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มเติม" เยลเลนบอกกับผู้สื่อข่าวในโทรอนโต
ระหว่างแถลงข่าวที่มี คริสเตีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีคลังแคนาดา ยืนอยู่ข้างๆ เยลเลน บอกต่อว่า "เราคิดว่าข้อยกเว้นทางราคาก็เป็นอีกแนวทางที่สำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบทะลักสู่บรรดาประเทศที่มีรายได้ต่ำและบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายที่กำลังประสบปัญหาราคาอาหารและราคาพลังงานพุ่งสูง"
รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวต่อว่าข้อยกเว้นทางราคาคือการตั้งเพดานราคาที่มีประสิทธิภาพ ที่สามารถบรรลุเป้าหมายผ่านมาตรการจำกัดหรือแบนการประกันภัยหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การเดินเรือขนส่งน้ำมันรัสเซีย
สหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ บางชาติ ได้ห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซียไปแล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสหภาพยุโรปยังคงพึ่งพิงน้ำมันดิบรัสเซียเป็นอย่างมาก
เมื่อถามว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนเสาะหาความเห็นเป็นเอกฉันท์ในเรื่องเกี่ยวกับแผนควบคุมราคาน้ำมันรัสเซีย ณ ที่ประชุมซัมมิตจี 7 ในเยอรมนี ในสัปดาห์หน้าหรือไม่ ทาง เยลเลน ตอบกลับว่า "เรากระตือรือร้นมาก เรากำลังทำงานอย่างกระตือรือร้นกับพันธมิตรของเราในเรื่องนี้"
ฟรีแลนด์บอกว่า แคนาดา "คิดว่ามันเป็นไอเดียที่ดีในความพยายามจำกัดรายได้น้ำมันของรัสเซีย แต่ต้องตระหนักว่าสิ่งนี้จะเป็นเรื่องท้าทายสำหรับบรรดาประเทศยุโรป เส้นทางข้างหน้าคือการพูดคุยกับพันธมิตรยุโรปของเรา และตระหนักว่า พวกเขาคือศูนย์กลางของการตัดสินใจในเรื่องนี้" เธอกล่าวพร้อมระบุต่อว่า ยูเครนเองก็จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจใดๆ เช่นกัน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า รัสเซียกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันให้จีนรายใหญ่ที่สุด หลังจากมอสโกปรับลดราคาขายน้ำมันดิบให้แก่ปักกิ่ง ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรต่อกรณีรุกรานยูเครน
ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรของจีน ระบุว่า จีนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียผ่านท่อส่งน้ำมัน อีสต์ ไซบีเรีย แปซิฟิก โอเชียน และการขนส่งทางทะเลรวมเกือบ 8.42 ล้านตันในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และนำเข้าจากซาอุดีอาระเบีย ที่เคยเป็นผู้ส่งออกน้ำมันป้อนจีนรายใหญ่ที่สุด 7.82 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
จีนเพิ่มการจัดซื้อน้ำมันรัสเซีย แม้อุปสงค์ในประเทศถูกกัดเซาะจากข้อจำกัดสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จีนและรัสเซียประกาศว่าความสัมพันธ์ของสองชาตินั้น ดำเนินไปอย่าง "ไร้ขีดจำกัด"
บริษัทต่างๆ ของจีน ในนั้นรวมถึงซิโนเปก บริษัทกลั่นน้ำมันแห่งรัฐยักษ์ใหญ่ และเจินหัว รัฐวิสาหกิจน้ำมัน ได้เพิ่มการจัดซื้อน้ำมันรัสเซีย ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับข้อเสนอปรับลดราคาลงอย่างมาก หลังจากบรรดาผู้ซื้อในยุโรปและสหรัฐฯ ปลีกตัวออกห่างจากพลังงานรัสเซีย ตามกรอบมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานมอสโก
ในดือนมีนาคม สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร บอกว่าจะแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ส่วนสหภาพยุโรปบอกว่ากำลังหาทางหยุดพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติรัสเซีย ในขณะที่ตะวันตกต้องการยกระดับคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเล่นงานมอสโกตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน
(ที่มา : บีบีซี/รอยเตอร์)