ดิสนีย์และเนตฟลิกซ์ประกาศเมื่อวันศุกร์ (24) ว่า พวกเขาจะดูแลค่าเดินทางไปทำแท้งให้พนักงานในบริษัท ภายหลังศาลสูงสุดสหรัฐฯ คว่ำคำตัดสินคดี Roe v. Wade เมื่อปี 1973 ซึ่งรับรองสิทธิตามรัฐธรรมนูญของผู้หญิงในการทำแท้ง
ภายหลังคำตัดสินดังกล่าว ดิสนีย์ได้ออกประกาศถึงพนักงานยืนยันว่า บริษัทจะขยายสิทธิประโยชน์ด้านการวางแผนครอบครัวให้พนักงานคนใดก็ตามที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการในพื้นที่ที่พวกเขาอยู่ รวมถึงการทำแท้ง
ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อผูกมัดที่มีต่อลูกจ้าง ดิสนีย์จะชดเชยค่าเดินทางให้ใครก็ตามที่ไม่สมารถทำแท้งได้อย่างปลอดภัยในพื้นที่หนึ่ง ดิสนีย์ยังยืนยันด้วยว่า สิทธิประโยชน์ด้านการวางแผนครอบครัวฉบับปรับปรุงนี้มีผลกับสมาชิกครอบครัวของลูกจ้างดิสนีย์ด้วย
ในถ้อยแถลงถึงวอชิงตันโพสต์ ดิสนีย์ ระบุว่า "วันนี้เราได้ติดต่อโดยตรงกับพนักงานของเราเพื่อแจ้งให้ทราบว่า เราตระหนักถึงผลกระทบจากคำตัดสิน และเราจะรักษาข้อผูกมัดในการจัดสรรสิทธิการเข้าถึงบริการรักษาที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสมสำหรับพนักงานของเรา นักแสดงประกอบ และครอบครัวของพวกเขา รวมถึงบริการการวางแผนครอบครัวและการเจริญพันธุ์ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม"
ดิสนีย์มีลูกจ้างอยู่ประมาณ 195,000 คนทั่วโลก ราว 80,000 คนอยู่ในฟลอริดา เมื่อเดือนเมษายน ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาจากพรรครีพับลิกัน รอน เดอซานติส ลงนามกฎหมายห้ามการทำแท้งเกือบทุกรูปแบบหลังตั้งครรภ์ 15 สัปดาห์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม ก่อนหน้านี้การทำแท้งสามารถทำได้ภายใน 24 สัปดาห์แรก
เนตฟลิกซ์เองก็ประกาศว่า บริษัทยินดีชดเชยค่าเดินทางสูงสุด 10,000 ดอลลาร์ให้ลูกจ้างและผู้อยู่ในสัญญาจ้างในกรณีที่จะต้องเดินทางไปรับการรักษามะเร็ง ปลูกถ่ายอวัยวะ การแปลงเพศ หรือการทำแท้ง