รอยเตอร์ - ผู้ประท้วงนับหมื่นรวมตัวในวอชิงตันและสถานที่ชุมนุมหลายร้อยแห่งทั่วอเมริกาเมื่อวันเสาร์ (11 มิ.ย.) เรียกร้องสมาชิกรัฐสภาผ่านกฎหมายควบคุมความรุนแรงจากอาวุธปืน หลังเหตุสังหารหมู่ในโรงเรียนประถมที่เทกซัส ปลายเดือนที่แล้ว โดยผู้ชุมนุมบางคนเสนองดลงคะแนนให้นักการเมืองที่ขัดขวางความพยายามในการยกระดับมาตรการควบคุมอาวุธปืนในการเลือกตั้งกลางเทอมปลายปีนี้
ที่วอชิงตัน กลุ่มผู้จัดการชุมนุมมาร์ช ฟอร์ อาวร์ ไลฟ์ส (เอ็มเอฟโอแอล) ประเมินว่า มีผู้ร่วมชุมนุมในเนชันแนล มอลล์ ใกล้อนุสาวรีย์วอชิงตันราว 40,000 คน ท่ามกลางฝนโปรยปราย กลุ่มรณรงค์เรียกร้องความปลอดภัยจากอาวุธปืนกลุ่มนี้ก่อตั้งขั้นโดยนักเรียนที่รอดชีวิตจากเหตุสังหารหมู่ในโรงเรียนมัธยมเมืองปาร์กแลนด์ รัฐฟลอริดาในปี 2018
คอร์ตนีย์ แฮกเกอร์ตี บรรณารักษ์ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการวิจัยจากเมืองลอว์เรนซ์วิลล์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ เดินทางไปวอชิงตันพร้อมเคต บุตรสาววัย 10 ปี และแกรม บุตรชายวัย 7 ปี เล่าว่า ตอนที่เกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนประถมแซนดี้ ฮุก ในเมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเน็ตติกัต เมื่อเดือนธันวาคม 2012 ซึ่งมือปืนคนหนึ่งสังหารเหยื่อ 26 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุ 6-7 ปีนั้น ลูกสาวเธอกำลังจะฉลองวันเกิดขวบปีแรกในวันรุ่งขึ้น
“ไม่น่าเชื่อว่า ตอนนี้เคต อายุย่าง 11 ปี แต่เรายังคงต้องออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้”
เคย์ ไคลน์ ผู้ฝึกหัดครู วัย 65 ปีที่เพิ่งเกษียณเมื่อต้นเดือน บอกว่า คนอเมริกันไม่ควรลงคะแนนให้นักการเมืองที่ไม่ยอมดำเนินการเรื่องนี้ในการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง ซึ่งจะชี้ชะตาว่า พรรคใดจะได้ควบคุมคองเกรส
“ถ้าเราห่วงใยลูกหลานและครอบครัวของเราจริง เราต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม มือปืนคนหนึ่งในเมืองยูวัลดี รัฐเทกซัส สังหารเด็ก 19 คน และครู 2 คน และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 10 วันหลังจากมือปืนอีกรายสังหารคนดำ 10 คน ในซูเปอร์มาร์เกตแห่งหนึ่งในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นการโจมตีทางเชื้อชาติ
เหตุกราดยิงเหล่านี้ตอกย้ำความเร่งด่วนในการอภิปรายในประเด็นความรุนแรงจากอาวุธปืน แม้แนวโน้มการผ่านกฎหมายยังคงไม่แน่นอนเนื่องจากสมาชิกพรรครีพับลิกันยังคัดค้านข้อจำกัดเกี่ยวกับอาวุธปืนก็ตาม
ช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ กลุ่มผู้เจรจาในวุฒิสภาจากทั้ง 2 พรรคให้สัญญาจะประกาศข้อตกลง ทว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ และความพยายามนี้พุ่งเป้าที่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เช่น การกระตุ้นให้รัฐต่างๆ ผ่านกฎหมาย “สัญญาณเตือน” ที่เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ป้องกันไม่ให้บุคคลที่มีแนวโน้มเป็นอันตรายเข้าถึงปืน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน สังกัดพรรคเดโมแครต ที่ก่อนหน้านี้เรียกร้องให้คองเกรสแบนอาวุธจู่โจม ขยายการตรวจสอบประวัติผู้ต้องการซื้ออาวุธปืน และดำเนินการมาตรการอื่นๆ ประกาศสนับสนุนการประท้วงในวันเสาร์
ทั้งนี้ ทางด้านเอ็มเอฟโอแอลเรียกร้องให้แบนอาวุธจู่โจม ตรวจสอบและเก็บข้อมูลประวัติผู้ที่ต้องการซื้ออาวุธปืนเกือบทุกประเภท และจัดตั้งระบบการออกใบอนุญาตทั่วประเทศที่กำหนดให้เจ้าของปืนต้องลงทะเบียน
ไบเดน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในลอสแองเจลิสว่า เขาคุยเรื่องนี้กับคริส เมอร์ฟีย์ วุฒิสมาชิกที่เป็นแกนนำการเจรจาในวุฒิสภาหลายครั้ง และคณะผู้เจรจายังคง “มองโลกแง่ดีเล็กน้อย”
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 มิ.ย.) สภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมโดยพรรคเดโมแครตผ่านมาตรการความปลอดภัยด้านอาวุธปืนที่ครอบคลุม แต่ร่างฎหมายนี้ไม่มีโอกาสไปต่อในวุฒิสภา เนื่องจากพรรครีพับลิกันมองว่า การจำกัดอาวุธปืนละเมิดสิทธิในการครอบครองอาวุธตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2
เซนา ฟิลิป วัย 16 ปี และเบลน ซีรัค วัย 15 ปี นักเรียนมัธยม 2 คนจากเมืองซิลเวอร์สปริง รัฐแมรีแลนด์ ใกล้กับวอชิงตัน บอกว่า ไม่เคยเข้าร่วมการประท้วงมาก่อน แต่เหตุกราดยิงในเทกซัสเป็นแรงกระตุ้นให้ทั้งคู่ไปร่วมชุมนุม
“แค่รู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นในโรงเรียนของเราก็ทำให้ฉันหวาดผวาแล้ว เด็กมากมายมึนงง และรู้สึกสิ้นหวังกับเรื่องนี้” ฟิลิปกล่าว
ซีรัคบอกว่า เธอสนับสนุนให้เพิ่มข้อจำกัดเกี่ยวกับปืน และประเด็นนี้มีมากกว่าการสังหารหมู่ แต่เป็นการเสียชีวิตรายวันจากความรุนแรงจากอาวุธปืน
“คนสามารถหาซื้ออาวุธสงครามได้ในอเมริกา ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย”