xs
xsm
sm
md
lg

คอลัมน์ “นอกหน้าต่าง”: ในอเมริกาของ‘ไบเดน’ ใครๆ ก็เหมือนไม่ค่อยรักปธน. แม้แต่เด็กทารกยัง‘ส่ายหน้าเลย’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ  ในช่วงหนึ่งของการประชุมหารือแบบทางไกลกับพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบระดับสูง และบรรดาผู้บริหารของบริษัทผู้ผลิตนมผงเลี้ยงทารกรายใหญ่ เรื่องนมผงเลี้ยงทารักขาดตลาด ณ ห้องประชุมในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน เมื่อวันพุธ (1 มิ.ย.)
ถ้าหากการหอมแก้มเด็กๆ ตัวน้อยๆ ถือเป็นโอกาสในฝันของพวกนักการเมือง ที่จะได้ถ่ายภาพซึ่งจะได้รับคัดเลือกให้เผยแพร่ทางสื่อและเรียกคะแนนนิยมทางบวกอย่างเห็นๆ

การที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กลับแสดงให้เห็นถึงความงุ่มง่ามในการรับมือแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนนมผงเลี้ยงทารกทั่วประเทศ จึงกลายเป็นฝันร้ายทางการเมืองไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งกลายเป็นสัญลักษณ์ของสมัยการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนหนักเหลือเกินเพื่อยับยั้งความไม่พอใจของผู้คนวงการต่างๆ


ด้วยวิถีทางนักการเมืองรุ่นเก๋าในวอชิงตัน ผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองและการทูตโชกโชนหลายสิบปี และวางตัวอย่างเหมาะสมแบบคนดีมีมารยาทในสังคม ไบเดนสามารถชนะการเลือกตั้งในปี 2020 ด้วยคำมั่นสัญญาที่ว่า จะ “เยียวยา” ประเทศชาติซึ่งอยู่ในอาการบอบช้ำภายหลังระยะเวลา 4 ปีของโดนัลด์ ทรัมป์

อย่างไรก็ดี ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากลับแสดงให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่า การเยียวยาที่กล่าวนี้ยังคงไม่บังเกิดขึ้น โดยที่ไบเดนเป็นผู้ถูกประณามว่าต้องรับผิดชอบ –ไม่ว่านั่นจะเป็นการกล่าวโทษที่ยุติธรรมหรือไม่ก็ตามที

หลักฐานหมายเลข 1 ได้แก่ การตอบสนองอย่างซึมเซาเชื่องช้าต่อปัญหานมผงเลี้ยงทารกขาดตลาด ชั้นวางสินค้าพวกนี้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตกำลังว่างเปล่า และพ่อแม่ผู้ปกครองต่างวิตกกังวลว่าจะไปหาอะไรมาเลี้ยงดูคุณหนูน้อยๆ ที่ออกมาดูโลกยังไม่ทันไรของพวกเขา

คณะบริหารไบเดนนั้นถูกเล่นงานหนักหน่วงอยู่แล้ว จากความโกรธเกรี้ยวของผู้คนต่อปัญหาเงินเฟ้อ และการสะดุดติดขัดของห่วงโซ่อุปทานในสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ ไปจนถึงพวกวัสดุก่อสร้าง

นอกจากนั้นแล้วยังมีเสียงบ่นพึมเกี่ยวกับการจัดงานใหญ่ระดับภูมิภาคในเมืองลอสแองเจลิส สัปดาห์นี้ อันได้แก่ การประชุมซัมมิตของบรรดาผู้นำในทวีปอเมริกาทั้งเหนือและใต้ การประชุมกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-10 มิ.ย. แต่ปรากฏว่าเต็มไปด้วยความไม่ลงตัว แม้กระทั่งถึงปลายๆ สัปดาห์ที่แล้ว ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะมีประมุขประเทศหรือผู้นำรัฐบาลของชาติใดบ้างที่เดินทางมาเข้าร่วม

ครั้นมาถึงตอนนี้ บรรดาทารกแห่งชาติ อย่างน้อยที่สุดก็พวกพ่อแม่ผู้ปกครองของหนูน้อยเหล่านี้ล่ะ กำลังเข้าร่วมขบวนแถวของผู้คนที่พากันส่ายหน้า ด้วยความไม่รัก “ไบเดน”

แก้ไขอะไรไม่ได้ หรือไม่ตื่นตัวตระหนักถึงปัญหา?

ปัญหานมผงเลี้ยงทารกขาดแคลนนั้น ไม่ได้เริ่มต้นขึ้นมาจาก ไบเดน หรอก

มันเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อบริษัทแอ๊บบอต ซึ่งควบคุมตลาดในสหรัฐฯเอาไว้ถึงราว 40% สั่งปิดโรงงานแห่งหนึ่งของตน และออกประกาศเรียกคืนผลิตภัณฑ์

ขณะที่ความแตกตื่นว่าสินค้าอาจจะขาดตลาดเริ่มแพร่กระจายไปในหมู่ซูเปอร์มาร์เก็ตร้านค้าปลีกทั้งหลาย บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองก็เผชิญกับฉากทัศน์ซึ่งดูเหลือเชื่อ นั่นคือ ประเทศที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลกแห่งนี้ทำท่าราวกับไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะจัดหานมผงเลี้ยงทารกมาตอบสนองความต้องการได้อย่างไร้ปัญหา

เพื่อย้ำยืนยันให้ความมั่นใจแก่ชาวอเมริกัน เมื่อวันพุธ (1 มิ.ย.) ทำเนียบขาวจึงจัดการประชุมทางไกลว่าด้วยนมผงเลี้ยงทารกขึ้นมา โดยมีทั้งพวกเจ้าหน้าที่ระดับท็อปที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารจากผู้ผลิตรายใหญ่ๆ เข้าร่วมและมี ไบเดน เองเป็นเจ้าภาพ

การประชุมหารือคราวนี้ซึ่งมุ่งหมายที่จะป่าวร้องให้เห็นความรีบเร่งขวนขวายของคณะบริหารในการจัดหานมผงเลี้ยงทารกเพิ่มเติมเข้าสู่ตลอด โดยรวมไปถึงการผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการนำเข้านมผงจากต่างประเทศ และจัดให้ฝ่ายทหารเข้าช่วยเหลือเรื่องการขนส่ง

แต่แล้วข้อความแฝงการหาเสียงเรียกคะแนนคราวนี้ กลับมีอันล้มคะมำอย่างไม่เป็นท่าต่อหน้ากล้องทีวี เมื่อไบเดนพยายามพูดนำให้พวกผู้บริหารบริษัททั้งหลายเห็นพ้องว่า ไม่มีใครเลยที่มองเห็นล่วงหน้าว่าการเรียกคืนสินค้าของแอ๊บบอต จะนำสู่วิกฤตการณ์ระดับทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเช่นนี้

พวกผู้บริหารเหล่านี้พูดขัดขึ้นมาว่า พวกเขามองเห็นกันอยู่ โดยที่คนหนึ่งถึงกับบอกว่า “เห็นกันได้ตั้งแต่ตอนปัญหาเริ่มใหม่ๆ” ด้วยซ้ำไป

ความยุ่งเหยิงในเรื่องการประชาสัมพันธ์

ในอีกด้านหนึ่ง ความสามารถของทำเนียบขาวในการเอาตัวรอดจากกระแสข่าวร้ายที่กระหน่ำกันเข้ามา ดูจะลดทอนลงในช่วงนี้พอดี เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนตัวบุคคคลกันครั้งใหญ่ในส่วนงานด้านการประชาสัมพันธ์

ทั้งนี้ เจน ซากี เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาวซึ่งได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง เพิ่งลาออกไปทำงานกับภาคเอกชน ขณะที่ แครีน จีน-ปีแอร์ ผู้ช่วยของเธอซึ่งขึ้นมาแทนที่ ก็เจอกับงานสุดโหดในทันที พร้อมๆ กับที่ต้องหาคนเข้ามาแทนที่พวกคนช่วยงานเดิม ๆ ซึ่งอำลากันไป

มิหนำซ้ำในการแถลงข่าวประจำวันของทำเนียบขาวในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังเต็มไปด้วยคำถามดุดันจากพวกผู้สื่อข่าว

ทำไมท่านประธานาธิบดีถึงไม่เข้าใจตั้งแต่เนิ่นๆ ว่า ปัญหาเรื่องนมผงเลี้ยงทารกนี่มันร้ายแรงขนาดไหน?

ท่านประธานาธิบดียอมรับไหมว่าท่านผิดแล้วที่ไปบอกว่าเงินเฟ้อจะเป็นปัญหาชั่วคราวเท่านั้น?

ทำไมทั้งๆ ที่เกิดเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมที่เทกซัส และที่อื่นๆ ซึ่งมีคนตายกันเยอะ ท่านประธานาธิบดีจึงไม่ลงมือผลักดันพวกวุฒิสมาชิกด้วยตัวท่านเอง เพื่อให้ออกกฎหมายปฏิรูปการครอบครองอาวุธปืน?

ยีน-ปิแอร์ พบว่าตัวเองต้องตกเป็นฝ่ายรับ

เมื่อถูกกดดันว่าจนกระทั่งอีกสัปดาห์เดียวก็จะเปิดประชุมกันอยู่แล้ว ทำไมจึงยังคงไม่มีรายชื่อแขกผู้เข้าร่วมซัมมิตอเมริกาเหนือ-ใต้คราวนี้ ยีน-ปิแอร์ ก็ตอบแบบยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเมื่อวันพุธ (1)

“ถ้าคุณเฝ้าติดตามคณะบริหารชุดนี้มาตั้งแต่ช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาแล้ว คุณก็คงทราบว่าอาทิตย์เดียวนะยังไม่ใช่ถือว่าใกล้เส้นตายอะไรหรอก เมื่อมาดูกันว่า ... อะไรต่างๆ มันผ่านไปยังไง” เธอกล่าว “นั่นถือว่ายังมีเวลาอีกตั้งช่วงชีวิตหนึ่งสำหรับเราเลยนะ”

เวลาสำหรับงานปาร์ตี้ชายหาด

เรตติ้งการยอมรับผลงานของไบเดน ตกลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 50% ตั้งแต่ปีที่แล้ว และเป็นที่คาดการณ์กันอยู่ทั่วไปว่าพรรคเดโมแครตของเขาจะปราชัยให้แก่พรรครีพับลิกัน โดยไม่สามารถรักษาเสียงข้างมากในการเลือกตั้งรัฐสภาเดือนพฤศจิกายนนี้

สิ่งต่างๆ ย่ำแย่ถึงขนาดว่า กระทั่งได้คะแนนพุ่งขึ้นมาถึง 6% ในเรตติ้งล่าสุดของเขา ตามผลโพลของรอยเตอร์/อิปซอส ซึ่งเผยแพร่กันในสัปดาห์ที่แล้ว มันก็ยังทำให้เขาได้คะแนนความยอมรับจากประชาชนเพียงแค่ 42% เท่านั้น

สาเหตุของปัญหาอุปสรรคจำนวนมากของประธานาธิบดีผู้นี้ ก็เป็นสิ่งที่ผู้ครอบครองทำเนียบขาวคนก่อนๆ เคยประสบกันมาแล้ว กล่าวคือ เมื่อไม่อาจครองเสียงข้างมากในรัฐสภาชนิดที่เพียงพอทำให้ผลักดันนโยบายต่างๆ ได้ เขาก็ไม่ได้มีอำนาจมากมายอย่างที่ผู้คนทั้งหลายคิดกัน

ในการกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปอาวุธปืน ซึ่งจัดกันขึ้นมาอย่างเร่งด่วนโดยมีการแจ้งล่วงหน้าเพียงสองสามชั่วโมงเมื่อวันพฤหัสบดี (2) ไบเดนกล่าวแบบเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ขอให้รัฐสภาออกกฎหมายห้ามครอบครองพวกอาวุธปืนไรเฟิลจู่โจม ทว่านักวิเคราะห์ต่างมองว่าแทบไม่มีโอกาสเลยที่เขาจะสามารถเปลี่ยนใจพวกฝ่ายค้านรีพับลิกันของเขาได้

ไบเดน รีบออกจากทำเนียบขาวไปพักผ่อนสุดสัปดาห์ที่ชายหาด ในทันทีที่เขาเสร็จการการปราศรัย

ในวันศุกร์ (3) เขาสามารถที่จะเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบ 71 ปี ของ จิลล์ ภรรยาของเขา ณ บ้านพักของพวกเขาในรัฐเดลาแวร์ ห่างไกลจากพายุร้ายในวอชิงตัน

แต่ที่กรุงวอชิงตัน –แล้วก็การประชุมซัมมิตอเมริกาเหนือใต้ –ยังคงรอเคอยขาอยู่ ตั้งแต่วันจันทร์ (6) เป็นต้นไป

(เก็บความจากเรื่อง In Biden's America, even the babies are upset ของสำนักข่าวเอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น