xs
xsm
sm
md
lg

อีกแล้ว! เกิดเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ 3 เมืองรวด ตายรวม 9 ศพบาดเจ็บหลายสิบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เกิดเหตุกราดยิงใน 3 เมืองของอเมริกา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บ 25 คน จากการเปิดเผยของตำรวจในวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) เหตุความรุนแรงจากอาวุธปืนในสหรัฐฯ ระลอกล่าสุด หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน เพิ่งเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันในเทกซัส นิวยอร์ก และโอคลาโฮมา

ในฟิลาเดลเฟีย เหตุเผชิญหน้ากันระหว่างชาย 2 คน ลุกลามสู่การปะทะด้วยอาวุธปืน บนถนนเซาท์อันพลุกพล่านในรัฐเพนซิลเวเนีย พื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยผับบาร์และร้านอาหาร ไม่นานก่อนเที่ยงคืนวันเสาร์ (4 พ.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย แบ่งเป็นชาย 2 คน และผู้หญิง 1 คน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ โดยผู้เสียชีวิต 2 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นเหยื่อผู้บริสุทธิ์ที่สัญจรผ่านไปมาแถวนั้นพอดี

ภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นประชาชนบนท้องถนนที่พลุกพล่านพากันวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก ในช่วงท้ายคลิปที่มีความยาว 22 วินาที สันนิษฐานว่ามันเกิดขึ้นหลังเสียงปืนดังขึ้น

อีกเหตุการณ์คล้ายกันในเมืองชัตตานูกา รัฐเทนเนสซี เหตุยิงกันเกิดขึ้นในขณะที่ผู้คนกำลังสนุกสนานยามค่ำคืนวันเสาร์ (4 พ.ค.) ในตัวเมือง และเชื่อว่าเหตุความรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเที่ยงคืนไม่นาน เบื้องต้นยังไม่มีผู้ต้องสงสัยรายใดถูกควบคุมตัวในเหตุยิงกันทั้ง 2 เหตุการณ์

นอกจากนี้ ยังมีเหตุยิงกันเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) ในเมืองซากินอว์ รัฐมิชิแกน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 2 คน อย่างไรก็ตามในกรณีของเมืองซากินอว์ แตกต่างจากอีก 2 เหตุการณ์ที่เหยื่อเป็นผู้สัญจรผ่านไปมาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เนื่องจากเหยื่อทั้ง 5 คนในมิชิแกน ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการยิงกัน

ย้อนกลับไปที่เหตุยิงกันในชัตตานูกา มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจากบาดแผลกระสุนปืน 14 คน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ พร้อมระบุว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น 2 รายตายเพราะบาดแผลกระสุนปืน ส่วนอีกคนเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บ หลังถูกชนด้วยยานพาหนะคันหนึ่งระหว่างกำลังหลบหนีออกจากสถานที่เกิดเหตุ



เจ้าหน้าที่รัฐเทนเนสซี เผยต่อว่าในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นมีหลายคนอาการยังคงสาหัส และมีอยู่ 3 รายที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถยนต์ชนขณะกำลังพยายามวิ่งหลบหนีจากจุดเกิดเหตุ

ทั้ง 3 เหตุการณ์ย้อนให้นึกถึงเหตุยิงกันหลายต่อหลายเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คน 10 รายในห้างขายของชำแห่งหนึ่งในบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก สังหารเหยื่อ 21 คน ที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเมืองอูวัลเด รัฐเทกซัส และมีผู้เสียชีวิต 4 รายในอาคารทางการแพทย์หลังหนึ่งในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา ทั้งนี้พวกผู้สนับสนุนควบคุมอาวุธปืนกำลังพยายามผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการเข้มงวดขึ้นในการสกัดความรุนแรงจากอาวุธปืน

นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2022 จนถึงตอนนี้มีเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ แล้วอย่างน้อย 240 เหตุการณ์ ตามข้อมูลของกัน ไวโอเลนซ์ อาร์ไคฟ์ (Gun Violence Archive) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยไม่แสวงหาผลกำไร ในขณะที่พวกเขาให้คำนิยามเหตุกราดยิง คือการยิงกันที่มีคนถูกยิงอย่างน้อย 4 รายขึ้นไป ไม่นับผู้ก่อเหตุ

จิม เคนนีย์ นายกเทศมนตรีฟิลาเดลเฟีย บรรยายภาพเหตุยิงกันที่เกิดขึ้นว่า "น่าสยดสยอง น่ารังเกียจและไร้ความรู้สึก" พร้อมระบุผู้เสียชีวิตอายุ 22 ปี 27 ปีและ 34 ปี ในขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บอายุระหว่าง 17 ปี ถึง 69 ปี

ในเหตุการณ์ในเทนเนสซี มีมือปืนผู้ก่อเหตุหลายคนเช่นกัน และทางผู้บัญชาการตำรวจเมืองชัตตานูกา ร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน ขอให้ผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลผ่านโทรศัพท์สายด่วน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (2 มิ.ย.) เรียกร้องสภาคองเกสแบนอาวุธจู่โจม ยกระดับการตรวจสอบภูมิหลังและกำหนดมาตรการอื่นๆ ควบคุมอาวุธปืน เพื่อจัดการกับปัญหาเหตุยิงสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

มีชาวสหรัฐฯ อย่างกว้างขวาง ทั้งรีพับลิกันและเดโมแครต ที่อยากเห็นกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดกว่าเดิม แต่สมาชิกรีพับลิกันในสภาคองเกสและสมาชิกเดโมแครตสายกลางบางส่วนบล็อกความพยายามออกกฎหมายลักษณะดังกล่าวมานานหลายปีแล้ว

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น