เซเลนสกีปลื้มยูเครนจ่อได้สถานะผู้สมัครอียู แต่ในสนามรบถูกรัสเซียถล่มหนักใกล้เสียภูมิภาคดอนบาส

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันพุธ (22 มิ.ย.) ปลื้มปริ่มกับแนวโน้มที่สหภาพยุโรป (อียู) จะอนุมัติสถานะผู้สมัครแก่ประเทศของเขาในสัปดาห์นี้ แม้ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งกองกำลังรัสเซียยังคงเดินหน้าถล่มคาร์คิฟ เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของยูเครนและภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกของประเทศ

บรรดาผู้นำของยุโรปเตรียมอนุมัติอย่างเป็นทางการสถานะผู้สมัครของยูเครน ในเส้นทางที่ยาวนานของการเข้าเป็นสมาชิกอียู ระหว่างการประชุมซัมมิตในกรุงบรัสเซลส์วันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) ทั้งนี้แม้ส่วนใหญ่แล้วมันเป็นความเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์ แต่มันจะช่วยเพิ่มขวัญและกำลังใจแก่ประเทศแห่งนี้ ที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากท่ามกลางความขัดแย้งที่ลากยาวมานานเกือบ 4 เดือน คร่าชีวิตผู้คนไปหลายหมื่นราย หลายล้านคนต้องอพยพหลบหนี เมืองและหมู่บ้านต่างๆ พังราบเป็นหน้ากลอง

สงครามยังส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจโลกและการจัดการด้านความปลอดภัยของยุโรป ดันราคาก๊าซ น้ำมันและอาหารพุ่งทะยาน ผลักให้อียูลดพึ่งพิงพลังงานรัสเซีย และกระตุ้นให้ฟินแลนด์และสวีเดนหาทางเข้าเป็นสมาชิกนาโต้

เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปรายหนึ่งเปิดเผยในวันพุธ (22 มิ.ย.) ว่าอียูจะกลับสู่พลังงานถ่านหินเป็นการชั่วคราว เพื่อรับมือกับกระแสก๊าซรัสเซียที่ลดลงเรื่อยๆ แต่เน้นย้ำว่ามันจะไม่เตะถ่วงเป้าหมายระยะยาวของการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ในขณะที่ปัญหาตลาดก๊าซตึงตัวและราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งทะยาน ได้กระตุ้นให้เร่งมุ่งหน้าสู่พลังงานทางเลือก

เซเลนสกีเชื่อว่าทั้ง 27 ชาติสมาชิกอียู จะสนับสนุนสถานะผู้สมัครของยูเครน "เราสมควรได้รับมัน" เขากล่าวกับฝูงชนในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ผ่านวิดีโอลิงก์

บรรดาผู้แทนทูตเผยว่าคงต้องใช้เวลากว่าทศวรรษหรือนานกว่านั้น กว่าที่ยูเครนจะทำได้ตามเกณฑ์สำหรับเข้าเป็นสมาชิกอียู อย่างไรก็ตาม พวกผู้นำอียูบอกว่าทางกลุ่มจำเป็นต้องแสดงจุดยืน ตระหนักในความเสียสละของชาวยูเครน

อย่างไรก็ตาม ด้วยกำลังพลของพวกเขากำลังขาดแคลนกระสุน ท่ามกลางการสู้รบอันดุเดือดในสมรภูมิดอนบาส ในระยะสั้นยูเครนเรื่องเร่งด่วนมากกว่าการเข้าเป็นสมาชิกอียู

รัสเซียระดมถล่มเมืองคาร์คิฟ ที่อยู่ใกล้ชายแดนรัสเซีย ในวันอังคาร (21 มิ.ย.) และวันพุธ (22 มิ.ย.) ถือเป็นการโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ ในพื้นที่วิถีชีวิตกำลังกลับสู่ภาวะปกติ นับตั้งแต่ยูเครนผลักดันกองกำลังรัสเซียล่าถอยออกไปเมื่อเดือนที่แล้ว

เคียฟ ชี้ว่าปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว ซึ่งมีรายงานว่าสังหารชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 20 ราย เป็นความพยายามบีบให้ยูเครนต้องถอนทรัพยากรจากสมรภูมิหลักๆ ในภูมิภาคดอนบาส ออกไปปกป้องพลเรือนในเมืองคาร์คิฟ

โอเลห์ ซีเนฮูบอฟ ผู้ว่าการแคว้นคาร์คิฟ ระบุว่ารัสเซียยังคงเดินหน้ายิงปืนใหญ่โจมตีย่านที่พักอาศัยของคาร์คิฟ และเมืองต่างๆ ที่อยู่ภายในแคว้น "พวกผู้รุกรานยิงปืนใหญ่ถล่มพลเรือนไม่หยุด" เขาเขียนบนเทเลแกรม "นี่เป็นหลักฐานว่าเราไม่อาจคาดหมายในกรณีเดียวกับในเชอร์นิฮิฟหรือเคียฟ สมรภูมิที่รัสเซียถอนกำลังออกไปภายใต้แรงกดดัน"

โอเล็คซีย์ อาเรสโตวิค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ระบุว่ากองกำลังรัสเซียโจมตีคาร์คิฟ "โดยมีเป้าหมายข่มขวัญประชาชน" และบีบให้ยูเครนเบี่ยงกำลังทหาร

เซเลนสกีเตือนว่าการสู้รบอาจขยายวงกว้างมากขึ้นก่อนประชุมซัมมิตอียู ในขณะที่รัสเซียคัดค้านมาช้านานต่อการสานสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างยูเครน ประเทศอดีตสหภาพโซเวียต กับองค์กรต่างๆ ของตะวันตก อย่างเช่นอียูและพันธมิตรทหารนาโต้

ในการอัปเดตสถานการณ์สู้รบในช่วงเย็นวันพุธ (22 มิ.ย.) เสนาธิการทหารยูเครนเผยว่ารัสเซียยังระดมยิงปืนใหญ่ใส่คาร์คิฟ รวมถึงเมืองและหมู่บ้านอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ นอกจากนี้ ยังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มซีวีโรโดเนตสก์ ดินแดนที่ถูกทำลายล้างและเมืองอื่นๆ

เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ในช่วงเย็นวันพุธ (23 มิ.ย.) กองกำลังรัสเซียเดินหน้าเสริมกำลังในซีวีโรโดเนตสก์ ในความพยายามปิดล้อมทหารยูเครน อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของมอสโกที่บอกว่าทหารรัสเซียควบคุมเมืองแห่งนี้ได้แล้ว "การสู้รบยังเดินหน่้าต่อไป กองกำลังรัสเซียยังไม่สามารถควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด"

มอสโกระบุว่ากองกำลังยูเครนในซีวีโรโดเนตสก์ สมรภูมิที่มีการสู้รบดุเดือดที่สุดเมื่อเร็วๆ นี้ ถูกปิดล้อมและเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขีดเส้นให้พวกเขาเลือกยอมจำนนหรือยอมตาย หลังจากยิงถล่มทำลายสะพานแห่งสุดท้ายที่ทอดข้ามแม่น้ำซิเวอร์สกี โดเนตส์

อย่างไรก็ตาม โอเลคซานด์ร ราตูชเนียค ช่างภาพอิสระ ซึ่งเดินทางเข้าไปยังซีวีโรโดเนตสก์พร้อมกับกองกำลังยูเครนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ถ่ายภาพกำลังเสริมของยูเครนกำลังใช้แพยางล่องข้ามแม่น้ำ

ภายในรัสเซีย เกิดเหตุไฟไหม้เผาผลาญโรงกลั่นน้ำมันหนึ่ง ที่อยู่ห่างจากแนวหน้าติดกับดินแดนดอนบาสที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซีย ไปเพียง 8 กิโลเมตร โดยหลังเกิดเหตุทางโรงกลั่นออกมาระบุว่ามันเป็นการโจมตีข้ามพรมแดนโดยโดรน 2 ลำ และส่งผลให้โรงกลั่นแห่งนี้ต้องระงับการผลิต

ยูเครนยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุโจมตีดังกล่าว แต่ที่ผ่านมาทางบรรดาผู้บัญชาการทหารของยูเครนเคยเรียกเหตุการณ์ลักษณะนี้ว่าเป็น "กรรมตามสนอง" จากการโจมตียูเครนของรัสเซีย

ในทางภาคใต้ของยูเครน เจ้าหน้าที่เผยว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธ 7 ลูก ถล่มท่าเรือของเมืองมีโคลาอีฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายและก่อไฟไหม้หลายจุด สอดคล้องกับข้อมูลจาก Viterra บริษัทผู้ค้าธัญพืชระดับโลก ที่เผยว่าอาคารสินค้าของพวกเขาในมีโคลาอีฟถูกโจมตีและเกิดไฟไหม้

(ที่มา : รอยเตอร์)