ไต้หวันมีศักยภาพโจมตีได้ถึงเมืองหลวงจีน ด้วยขีปนาวุธซูเปอร์โซนิกที่ผลิตเอง จากการเปิดเผยของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติของไต้หวัน พร้อมกับอ้างด้วยว่าเกาะแห่งนี้กำลังเรียนรู้จากกองกำลังยูเครนท่ามกลางการโจมตีของรัสเซีย
ระหว่างกล่าวปราศรัยเมื่อเร็วๆ นี้ ยู ซี-คุน ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติไต้หวัน สมาชิกทรงอิทธิพลของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรครัฐบาล ระบุว่า ในขณะที่ไต้หวันไม่ได้หาทางเผชิญหน้ากับจีน แต่พวกเขามีศักยภาพตอบโต้ด้วยกำลัง ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งใดๆ
"ไต้หวันจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีปักกิ่ง แต่ก่อนที่ปักกิ่งจะคิดโจมตีไต้หวัน พวกเขาต้องคิดให้ดีก่อนว่าไต้หวันก็มีศักยภาพโจมตีเช่นกัน" เขากล่าว พร้อมระบุว่า เกาะแห่งนี้สามารถ "โจมตีปักกิ่ง" ด้วยขีปนาวุธร่อนซูเปอร์โซนิก ยุง เฟิง (Yung Feng) ที่พัฒนาขึ้นเอง
ไต้หวัน ทุ่มเทเงินกว่า 400 ล้านดอลลาร์ในปี 2018 สำหรับปรับปรุงศักยภาพของขีปนาวุธแบบร่อน ยุง เฟิง โดยขยายพิสัยการยิงสูงสุดเป็น 1,200 ไมล์ (ราว 1,930 กิโลเมตร) ซึ่งสามารถโจมตีได้ไกลถึงกรุงปักกิ่ง
ยู ยังได้เปรียบเทียบระหว่างความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเผชิญหน้ากับจีน กับความขัดแย้งที่กำลังปะทุในยุโรปตะวันตันออก โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ "ความมุ่งมั่นป้องกันตนเอง" และบอกด้วยว่าไต้หวันได้แรงบันดาลใจจากสงครามยูเครนกับรัสเซีย
"พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องข้ามช่องแคบไต้หวันเพื่อโจมตีไต้หวัน ซึ่งต่างจากการโจมตียูเครนของรัสเซีย" เขากล่าว "ถ้าคุณต้องการยกพลขึ้นบก คุณจะต้องสู้ตรงชายหาด หากประสบความสำเร็จในการขึ้นบก ทุกคนในไต้หวันต้องมุ่งมั่นสู้จนตัวตายเหมือนกับยูเครน ออกไปข้างนอกและอย่าปล่อยให้จีนกลืนกินไต้หวัน"
แม้เจ้าหน้าที่บอกว่าการ "ช่วยเหลือตนเอง" คือหลักการนำหน้าสำหรับไทเปและเคียฟ แต่ข้อเท็จจริงคือทั้งไต้หวันและยูเครนต่างได้รับความช่วยเหลือด้านอาวุธและรูปแบบอื่นๆ จากตะวันตกและชาติอื่นๆ ในนั้นรวมถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติขายอาวุธรอบแล้วรอบเล่าแก่ไต้หวัน และเห็นชอบจัดหาอาวุธหลายหมื่นล้านดอลลาร์แก่กองทัพยูเครน นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง
หม่า เสี่ยวกวง โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของสภาแห่งรัฐของจีน เตือนว่าการโจมตีใดๆจากไต้หวันจะเผชิญกับผลสนองที่เลวร้าย "เมื่อพวกเขากล้าเอาไข่เขวี้ยงใส่หิน มันก็รังแต่เป็นการเร่งให้พวกเขาถึงจุดจบเร็วยิ่งขึ้น"
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)
