จากกระแสเปลี่ยนชื่อเป็น “ปลาแซลมอน” เพื่อร่วมแคมเปญกินฟรีของร้านซูชิแห่งหนึ่งในไต้หวันที่เป็นข่าวโด่งดังเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุด รัฐสภาไต้หวันถึงขั้นต้องเปิดอภิปรายเพื่อแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนชื่อ หลังพบว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งใช้สิทธิเปลี่ยนชื่อครบจำนวนครั้งไปแล้ว และจะต้องเป็น “นายปลาแซลมอน” กันไปตลอดชีวิต
เมื่อเดือน มี.ค. ปี 2021 ร้าน “ซูชิโร” (Sushiro) ซึ่งเป็นเครือร้านซูชิสายพานชื่อดังของญี่ปุ่นที่มีอยู่ 20 สาขาในไต้หวัน ได้ออกแคมเปญกินซูชิฟรีสำหรับลูกค้าที่ชื่อในบัตรประชาชนมีคำว่า “กุ้ยอวี๋” ซึ่งหมายถึงปลาแซลมอนในภาษาจีน ปรากฏว่ามีชาวไต้หวันมากถึง 331 คนที่ลงทุนไปเปลี่ยนชื่อเป็น “ความฝันของแซลมอน” หรือ “แซลมอนเต้นระบำ” เพื่อเข้าร่วมโครงการ
ตอนนั้นรัฐบาลไต้หวันก็ออกมาวิจารณ์แคมเปญส่งเสริมการขายลักษณะนี้ว่าไม่เหมาะสม และขอให้ประชาชน “ใช้วิจารณญาณ” ก่อนจะไปขอเปลี่ยนชื่อ ซึ่งเป็นการเพิ่มงานให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยใช่เหตุ
หลังจากโปรโมชัน 2 วันหมดลง ผู้ร่วมแคมเปญส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อเดิมของตนเอง แต่ก็มีบางคนที่ต้องทนใช้ชื่อ “ปลาแซลมอน” มานานถึงปีกว่าๆ แล้ว เนื่องจากรัฐบาลไต้หวันมีกฎให้พลเมืองเปลี่ยนชื่อได้ไม่เกิน 3 ครั้ง
วันพฤหัสบดีที่แล้ว (26 พ.ค.) รัฐสภาไต้หวันได้เปิดอภิปรายร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนชื่อ โดยมี ส.ส.จากทั้งฟากรัฐบาลและฝ่ายค้านที่เรียกร้องให้ช่วยเหลือบรรดา “คุณปลาแซลมอน” เหล่านี้ หรือไม่ก็หาวิธีป้องกันไม่ให้ภาคธุรกิจทำแคมเปญแผลงๆ แบบนี้ออกมาอีก
“หลังเกิดเหตุการณ์แซลมอนอลหม่าน (salmon chaos) ขึ้น มีบางคนที่เปลี่ยนชื่อครบ 3 ครั้งไปแล้ว และไม่สามารถที่จะเปลี่ยนได้อีก” ชิว เซียนฉือ (Chiu Hsien-chih) ส.ส.จากพรรคนิวเพาเวอร์ปาร์ตี ระบุ พร้อมกับเสนอทางแก้ด้วยการเพิ่มค่าธรรมเนียมเปลี่ยนชื่อ หรือให้กำหนดช่วงเวลางดเว้น (cooling-off periods) เป็นต้น
ส.ส.บางคนจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) และพรรคฝ่ายค้านก๊กมินตั๋ง เรียกร้องให้มีการออกกฎเพื่อให้การเปลี่ยนชื่อทำได้ยากขึ้น ขณะที่บางคนเตือนว่าไม่ควรมีข้อจำกัดมากเกินไป เพราะจะเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนตัวของประชาชน
ชาวเน็ตไต้หวันบางคนมองว่า การหยิบยกประเด็นนี้ไปอภิปรายในสภาเป็นเรื่องที่ “เสียเวลา” และคนเราถ้า “โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” ก็ควรมีความรับผิดชอบมากกว่านี้
“เราจะต้องมานั่งแก้กฎหมายเพื่อช่วยคนที่ยอมขายตัวตนแลกกับผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ งั้นเหรอ?” ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์คนหนึ่งตั้งคำถาม ขณะที่อีกคนบอกว่า “รับผิดชอบชีวิตตัวเองบ้างเถอะ แซลมอนทั้งหลาย!”
ที่มา : The Guardian