(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Ukraine – The Situation (June 9)
By UWE PARPART
09/06/2022
เมืองซีวีโรโดเนตสก์ จะตกอยู่ในกำมือของกองกำลังรัสเซียในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ขณะที่เริ่มมีการอภิปรายถกเถียงกันในวอชิงตันว่า “ใครทำให้อเมริกาต้องสูญเสียยูเครน?”
เอเชียไทมส์มุ่งหมายจัดทำรายงานสถานการณ์สงครามยูเครนเช่นนี้ออกมาเสนอในแบบเกือบเป็นประจำทุกวัน โดยอิงอยู่กับแหล่งข่าวทั้งทางฝ่ายทหารและพวกหน่วยงานคลังสมองต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งนี้ถือเป็นความพยายามอย่างตรงไปตรงมาของเราที่จะทะลุทะลวงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อและการปล่อยข้อมูลข่าวสารออกมาอย่างผิดๆ ของทุกๆ ฝ่าย ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดม่านหมอกแห่งสงครามที่คอยปกปิดบดบังความเป็นจริงเอาไว้
สรุปสาระสำคัญและภาพรวม
กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่า กองกำลังของตนเวลานี้ควบคุมเมืองซีวีโรโดเนตสก์ (Severodonetsk หรือ Sievierodonetsk) ไว้ได้ 97% แล้ว
สถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่เวลานี้มีความคล้ายคลึงเป็นอย่างมากกับระยะสุดท้ายของการปิดล้อมที่เมืองมาริอูโปล ถึงแม้อยู่ในขนาดที่เล็กกว่า โดยมีพลเรือนและกองทหารชาวยูเครนจำนวนหลายร้อยคนขุดรูซุกซ่อนอยู่ภายในโรงงานปุ๋ยอาซอต (Azot fertilizer plant) ยุทธวิธีของฝ่ายยูเครนที่จะ “สู้รบเพื่อรักษาพื้นที่ทุกๆ ตารางนิ้ว” นี้ บางทีอาจถูกบงการมาจากกรุงเคียฟด้วยเหตุผลต่างๆ ในทางการเมือง ขณะที่ในทางการทหารแล้วมันแทบไม่มีเหตุผลหรือกระทั่งไม่มีเหตุผลเอาเลย
นิวยอร์กไทมส์รายงานเอาไว้เมื่อวันพุธ (8 มิ.ย.) ว่า เวลานี้รัฐบาลสหรัฐฯ มีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกองทหารรัสเซียในยูเครน ดียิ่งกว่าเกี่ยวกับกองกำลังยูเครนเสียอีก และเคียฟคอยปิดบังทำให้สหรัฐฯ ตกอยู่ในความมืด อีกทั้งเป็นไปได้ว่ากระทั่งชักนำทำให้สหรัฐฯ เข้าใจผิดด้วยซ้ำ เพื่อปกป้องรักษาให้ความช่วยเหลือทางการทหารของอเมริกันยังคงไหลทะลักเข้ามายังประเทศนี้อย่างอุดมสมบูรณ์ต่อไป
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้อ้างอิงความเห็นของ เบธ แซนเนอร์ (Beth Sanner) อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ (ผู้มีประสบการณ์ทำงานกับสำนักข่าวสืบราชการลับแห่งนี้มายาวนานถึง 35 ปี) อีกครั้งเคยเป็นรองผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ (deputy director of national intelligence) ด้วย ที่กล่าวว่า ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ กำลังทำให้ตัวเองติดอยู่ในกับดักทางการเมือง
“เราไม่ได้มีการพูดอะไรในเรื่องว่า จริงๆ แล้ว ยูเครนจะสามารถยังความพ่ายแพ้ (ให้แก่รัสเซีย) ได้หรือไม่ สำหรับดิฉันแล้ว ดิฉันรู้สึกว่าเรากำลังพาตัวเองให้ตกอยู่ในความล้มเหลวทางด้านข่าวกรองอีกครั้งหนึ่งนะ จากการที่ไม่พูดจาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน” เธอบอก
แน่นอนทีเดียว สำหรับอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านข่าวกรองสหรัฐฯ แห่ง “รุ่นอายุที่มองว่าอะไรๆ ก็ทำได้สำเร็จอย่างง่ายดายไปหมด” (the “it’s a slam dunk generation”) การออกมากล่าวอ้างว่าข่าวกรองสหรัฐฯ เล่นงุ่มง่ามอยู่ในความมืดเช่นนี้ต้องถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ หรือว่าเรากำลังมองเห็นการเริ่มต้นของการอภิปรายถกเถียงกันว่า “ใครทำให้สหรัฐฯ ต้องสูญเสียยูเครนไป?”
แผนที่ภาพรวมข้างล่างนี้แสดงให้เห็นว่าเรายืนอยู่ตรงไหนในยุทธบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน ซึ่งเหลือช่องว่างอยู่ราว 20-25 กิโลเมตรที่ยังแยกกองกำลังรัสเซียส่วนซึ่งอยู่ทางด้านใต้ของเมืองลีมาน (Lyman) จากกองกำลังส่วนที่อยู่ตรงเมืองโปปาสนา (Popasna) ก่อนพื้นที่ส่วนที่นูนออกมาของดอนบาส (Donbass salient) จะถูกปิดลงเพราะถูกฝ่ายรัสเซียโอบล้อมเอาไว้ได้อย่างครบวงสมบูรณ์
ด้วยอัตราความเร็วของการบดบี้อย่างช้าๆ ที่กองกำลังรัสเซียใช้อยู่ คงจะใช้เวลาประมาณ 10-14 วันก่อนที่ช่องประตูตรงนี้จะถูกปิด
เวลาเดียวกันนี้ ยังเหลือช่องว่างอีกเกือบๆ 80 กิโลเมตรที่แยกกองกำลังรัสเซียส่วนซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองอีซุม (Izium) ออกจากกองกำลังส่วนที่อยู่ทางใต้ของเมืองบัคมุต (Bakhmut) ซึ่งเป็นศูนย์คมนาคมขนส่ง นี่ต้องถือเป็นระยะทางที่เยอะทีเดียว และน่าที่จะถูกปิดด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อในที่สุดแล้วกองกำลังรัสเซียรุกไปถึงเมืองสโลเวียสก์ (Sloviansk) แล้ว
ในภาคใต้ ตามคำเตือนที่บอกออกมาเมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) โดยประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กองกำลังรัสเซียอาจจะกำลังเตรียมเข้าโจมตีเมืองซาโปริซเซีย (Zaporizhzhi) โดยเป็นการโหมโรงเพื่อขยายพื้นที่ยึดครองในภาคใต้ของพวกเขาออกไปยังเมืองคริฟวี รีห์ (Kryvyi Rih) และเมืองมิโคลาอิฟ (Mykolaiv) จนถึงโอเดสซา (Odessa) เมืองท่าทรงความสำคัญทางยุทธศาสตร์
เส้นที่ลากจากเมืองดนิโปร (Dnipro) ในภาคใต้ ไปยังเมืองคาร์คิฟ (Kharkiv) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีระยะทางราวๆ 200 กิโลเมตร ถือว่าเป็นแนวป้องกันสำคัญที่สุดของยูครนในการมุ่งสกัดกองกำลังรัสเซียที่จะรุกทะลวงออกจากดอนบาส
โดยที่มีสหประชาชาติทำหน้าที่เป็นแกนกลาง รัสเซียกับตุรกีกำลังเจรจากันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับข้อกำหนดและแบบวิธีในการขนส่งธัญพืชออกจากท่าเรือต่างๆ ของยูเครน เมื่อพูดกันถึงที่สุดแล้ว ทั้งสามฝ่ายเหล่านี้ต่างก็จะได้รับประโยชน์ถ้าสามารถทำดีลกันได้ ทว่าการคาดเดาไปถึงขั้นที่ว่าเรื่องนี้อาจนำไปสู่การพูดจาในระดับกว้างไกลขึ้นไปอีกนั่นคือการเจรจาสันติภาพนั้น ดูเหมือนจะเป็นการกะเก็งที่เร็วเกินไป
รัฐมนตรีกลาโหม เซียร์เก ชอยกู (Sergei Shoigu) ของรัสเซีย ประกาศข่าวการเปิดเส้นทางขนส่งทางรถไฟและทางถนนรวมกันยาว 1,200 กิโลเมตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทางเลียบชายฝั่งทะเลระหว่างเมืองรอสตอฟออนดอน (Rostov on Don) ในรัสเซีย กับเมืองท่ามาริอูโปล (Mariupol) ในยูเครน ทั้งนี้ เส้นทางติดต่อทางบกระหว่างรัสเซียกับแหลมไครเมียนั้น (ซึ่งสามารถใช้ในการลำเลียงขนส่งจากเมืองท่าของยูเครนได้เช่นกัน แต่อยู่คนละทิศกับเส้นทางรอสตอฟออนดอน-มาริอูโปล -ผู้แปล) กำลังถูกใช้งานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว –อย่างที่มันจะต้องทำหน้าที่อีกสำหรับการรณรงค์สู้รบในภาคใต้ใดๆ ก็ตามทีที่จะเปิดขึ้นในช่วงต่อไปของฤดูร้อนนี้
ภาคกลางและภาคตะวันออก
ซีวีโรโดเนตสก์ น่าที่จะแตกภายในเวลาซึ่งนับกันเป็นวัน –โดยสาระสำคัญแล้วน่าจะเป็นไปตามโมเดลของเมืองมาริอูโปล ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ (Luhansk governor) เซอร์ฮีย์ ไฮได (Serhiy Haidai) ถึงแม้ชี้ให้เห็นว่าการสู้รบอย่างดุเดือดยังคงดำเนินอยู่ แต่ก็บ่งชี้ว่ากองกำลังยูเครนกำลังเตรียมตัวที่จะล่าถอยไปทางตะวันตก
ประเด็นปัญหาที่เคร่งเครียดจริงจังเพียงอย่างเดียวอยู่ตรงที่ว่า พวกเขาจะสามารถถอยออกมาจาก Donbass salient ได้ทันก่อนที่กับดักจะปิดลงด้วยการบรรจบกันของกองกำลังฝ่ายรัสเซียในแนวเส้นลีมาน-โปปาสนา หรือไม่
เมืองลีซีชานสก์ (Lysychansk) ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งด้านตะวันตกของแม่น้ำโดเนตส์ (Donets River) คนละฟากกับเมืองซีวีโรโดเนตสก์นั้น อยู่บนพื้นที่กว้างและสูงชันริมแม่น้ำ น่าจะสูงจากแม่น้ำราว 100-150 ฟุตทีเดียว จึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นที่มั่นซึ่งสามารถป้องกันได้ง่ายกว่าเมืองซีวีโรโดเนตสก์
ทว่า มันมีจุดอ่อนที่อาจถูกโจมตีจากกองกำลังรัสเซียซึ่งกำลังปฏิบัติการอยู่ทางด้านใต้และด้านตะวันตกของบริเวณนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากความพยายามรักษาเมืองซีวีโรโดเนตสก์เอาไว้ ย่อมจะเกิดขึ้นกับลีซีชานสก์ เช่นกัน นั่นคือ มีแต่จะทำให้การถอนกองกำลังใดๆ ออกจาก Donbass salient ไปทางตะวันตก ยิ่งมีความยากลำบากมากขึ้น ถ้าหากไม่ถึงขั้นเป็นไปไม่ได้เอาเลย
นอกเหนือจากซีวีโรโดเนตสก์ และลีซีชานสก์ แล้ว เมืองสโลเวียสก์ ก็ตกอยู่ในความยากมากที่สุดเช่นกัน ทว่ากองกำลังรัสเซียยังไม่ได้ยกทัพข้ามแม่น้ำโดเนตสก์ในจำนวนที่มากมายอะไร จังหวะเวลาของความเคลื่อนไหวดังกล่าวคือส่วนประกอบที่ทรงความสำคัญที่สุด
ภาคใต้
หลังจากยึดอะไรมาได้เล็กๆ น้อยๆ ทางภาคใต้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนก็ต้องสูญเสียพื้นที่หลายแห่งใกล้ๆ เมืองเคอร์ซอน (Kherson) ไปอีกครั้ง ขณะที่ฝ่ายรัสเซียใช้กำลังตีกวาดบริเวณด้านตะวันออกของแม่น้ำอินฮูเลตส์ (Inhulets River)
การโจมตีด้วยปืนใหญ่และจรวดดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตามพื้นที่จำนวนมากของเส้นแนวปะทะ (line of contact) แต่ไม่มีตรงไหนที่ถือเป็นการโจมตีอย่างใหญ่โตตามที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีทำนายเอาไว้ มีความเป็นไปได้น้อยมากๆ ที่ฝ่ายรัสเซียจะเคลื่อนพลเข้าตีซาโปริซเซีย หรือมิโคลาอิฟ อย่างจริงจัง ก่อนหน้าการปิดยุทธการดอนบาส
และอย่างที่แหล่งข่าวชาวอเมริกันรายหนึ่งซึ่งไม่ได้รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่งต่อหน่วยข่าวกรองสหราชอาณาจักร ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า “เครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนประการหนึ่ง ที่ว่าประธานาธิบดีปูติน ยังมีสุขภาพแข็งแรงและจะยังคงดำรงตำแหน่งของเขาไปอย่างน้อยที่สุดอีก 5 ปี ก็คือ การที่ คริสโตเฟอร์ สตีล (Christopher Steele) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหราชอาณาจักร และนักโกหกพกลมระดับแนวหน้าบอกว่า ประธานาธิบดีปูติน จะพ้นอำนาจภายในเวลา 3 ถึง 6 เดือน”