รัสเซียคุยยึดพื้นที่เขตอยู่อาศัยของ ‘ซีวีโรโดเนตสก์’ เมืองสำคัญในดอนบาสสำเร็จแล้ว ยูเครนบอกยังรบกันอยู่ แต่ฝ่ายตนมีกำลังน้อยกว่า

รัสเซียแถลงในวันอังคาร (7 มิ.ย.) ว่า กองกำลังฝ่ายตนสามารถเข้าควบคุมอย่างเต็มที่พวกย่านที่อยู่อาศัยต่างๆ ในเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ซึ่งเป็นจุดโฟกัสของการสู้รบในระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่กรุงเคียฟระบุว่า กองกำลังของตนยังคงสู้รบอยู่ในเมืองสำคัญของภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของประเทศแห่งนี้ ถึงแม้มีจำนวนน้อยกว่ามากก็ตาม

“พื้นที่เขตที่อยู่อาศัยต่างๆ ของเมืองซีวีโรโดเนตสก์ได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์แล้ว” รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซียร์เก ชอยกู กล่าวในการประชุมของกระทรวงเมื่อวันอังคาร (7)

กองทัพรัสเซียยังคงหาทางเข้าควบคุมอย่างมั่นคงเหนือ “เขตอุตสาหกรรมและพวกชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงที่สุด” ของเมืองนี้ ชอยกูกล่าวต่อ ขณะที่ข่าวคราวยังเต็มไปด้วยความสับสนว่าฝ่ายใดยึดครองควบคุมพื้นที่ส่วนไหนได้กันแน่

มอสโกนั้นพยายามที่จะเข้าควบคุมศูนย์อุตสาหกรรมทรงความยุทธศาสตร์แห่งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปิดล้อมกำลังทหารส่วนหลักราว 10,000-15,000 คนของกองทัพยูเครน รวมทั้งเข้ายึดครองพื้นที่ต่างๆ ในแคว้นลูฮันสก์ ซึ่ง 1 เป็น 2 แคว้นที่รวมกันเป็นภูมิภาคดอนบาส โดยที่อีกแคว้นหนึ่งคือ โดเนตสก์ ทว่ากองกำลังของฝ่ายเคียฟยังคงพยายามต้านทานอยู่จนถึงเวลานี้

ในวิดีโอคำปราศรัยประจำวันของเขาที่เผยแพร่ออกมาในคืนวันจันทร์ (6) ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน อ้างว่า “วีรชนของพวกเขากำลังรักษาที่มั่นต่างๆ ของพวกเขาในซีวีโรโดเนตสก์ การต่อสู้อย่างดุเดือดตามท้องถนนสายต่างๆ ยังคงดำเนินอยู่ในเมืองนี้”

แต่เซเลนสกีกล่าวเตือนด้วยว่า กองกำลังฝ่ายยูเครนในเมืองนี้มีจำนวนน้อยกว่ามาก และฝ่ายรัสเซีย “เข้มแข็งกว่า” เขาพูดเช่นนี้กับพวกผู้สื่อข่าว ภายหลังเดินทางไปตรวจเยี่ยมแนวหน้าในเมืองลีซีชานสก์ ซึ่งเป็นเมืองแฝดที่อยู่คนละฝั่งแม่น้ำของซีวีโรโดเนตสก์

ต่อมาในวันอังคาร (7) ขณะกล่าวผ่านทางวิดีโอลิงก์ในงานซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ของอังกฤษ เซเลนสกีประกาศยืนกรานว่า ยูเครนจะสู้รบเพื่อชิงคืนดินแดนทั้งหมดของตนซึ่งถูกยึดครองโดยกองกำลังฝ่ายรัสเซีย

“พวกเราสูญเสียผู้คนมากมายเกินไปแล้ว จนเกินกว่าที่จะยอมสละดินแดนของเราไปอย่างง่ายๆ” เขากล่าว

คำพูดเช่นนี้ของเซเลนสกี เห็นชัดว่ามุ่งตอบโต้ข้อเสนอแนะของหลายๆ ฝ่ายในยุโรปและในสหรัฐฯ ที่ว่า ยูเครนต้องยอมรับความจริงว่าไม่สามารถมีชัยและขับไล่รัสเซียออกจากดินแดนทั้งหมดที่พวกเขายึดไว้ และต้องยอมสละดินแดนบางส่วนให้รัสเซียเพื่อจะได้ยุติสงคราม ซึ่งเวลานี้เข้าสู่เดือนที่ 4 แล้ว

ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เป็นผู้หนึ่งซึ่งพูดทำนองนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อไม่กี่วันก่อน โดยเขาบอกว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไม่ทำให้มอสโก “เสียหน้า”

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเห็นเช่นนี้ของมาครง เซเลนสกีตอบว่า “เราไม่ได้กำลังทำให้ใครเสียหน้าถูกหมิ่นเกียรติ แต่เรากำลังจะตอบโต้อย่างสาสม”

ทางด้านกระทรวงกลาโหมอังกฤษ แถลงสรุปสถานการณ์การสู้รบในยูเครนเมื่อวันอังคาร (7) ว่า รัสเซียยังคงพยายามที่จะตัดขาดซีวีโรโดเนตสก์ ทั้งด้วยการรุกเข้ามาจากทางตอนเหนือในบริเวณใกล้ๆ เมืองอิซุม และจากทางด้านใต้ตรงใกล้ๆ เมืองโปปัสนา แต่การรุกคืบหน้าของรัสเซียจากโปปัสนาได้หยุดชะงักลงในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่มีรายงานการถล่มโจมตีด้วยปืนใหญ่และจรวดในบริเวณใกล้ๆ เมืองอีซุม บ่งชี้ว่ามอสโกกำลังเตรียมตัวเปิดการรุกครั้งใหม่ที่นั่น

“เกือบจะเป็นการแน่นอนทีเดียวว่า รัสเซียจำเป็นที่จะต้องทะลุทะลวงให้สำเร็จอย่างน้อยที่สุดก็หนึ่งในแนวรุกเหล่านี้ เพื่อเปลี่ยนดอกผลความได้เปรียบทางยุทธวิธีให้กลายเป็นความสำเร็จในระดับยุทธการ และก้าวคืบผลักดันวัตถุประสงค์ทางการเมืองของตนในการเข้าควบคุมแคว้นโดเนตสก์เอาไว้ให้ได้ทั้งหมด” คำแถลงของกระทรวงระบุ

ทางด้านผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ ปาพโล คีรีเลนโก บอกกับโทรทัศน์ยูเครนว่า ฝ่ายรัสเซียใช้ปืนใหญ่และจรวดถล่มโจมตีตามเส้นแนวหน้าอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพยายามรุกคืบมุ่งสู่เมืองสโลเวียนสก์ และเมืองครามาตอร์สก์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในโดเนตสก์ที่ยังคงอยู่ในความควบคุมของฝ่ายยูเครน

ในอีกด้านหนึ่ง พวกประเทศตะวันตกกำลังกล่าวหารัสเซียว่า พยายามทำให้โลกเสี่ยงที่ต้องเผชิญภาวะอดอยาก ด้วยการปิดท่าเรือต่างๆ ในทะเลดำของยูเครน ซึ่งมีฐานะเป็นหนึ่งในชาติผู้ส่งออกธัญญาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ฝ่ายมอสโกตอบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากมาตรการแซงก์ชันรัสเซียของฝ่ายตะวันตกต่างหาก

รัฐมนตรีกลาโหมชอยกู ของรัสเซียบอกว่า ท่าเรือของเมืองเบอร์เดียนสก์ และเมืองมาริอูโปล ซึ่งรัสเซียยึดครองเอาไว้นั้นได้มีการกวาดทุ่นระเบิดจนพร้อมแล้วที่จะกลับมาส่งออกธัญญาหารได้อีกครั้งหนึ่ง ทว่าฝ่ายยูเครนท้วงว่าการส่งเรือมาขนสินค้าใดๆ ออกจากดินแดนซึ่งมอสโกยึดครองอยู่ จะเท่ากับการปล้นสะดมอย่างผิดกฎหมาย

เซเลนสกีบอกด้วยว่า เคียฟกำลังค่อยๆ ได้รับ “ระบบอาวุธต่อสู้เรือโดยเฉพาะ” และเขายืนยันว่า นี่คือหนทางดีที่สุดในการทำลายการปิดล้อมท่าเรือยูเครนของฝ่ายรัสเซีย

ด้าน ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกเครมลินแถลงว่า เพื่อฟื้นฟูการส่งออกจากเมืองท่าต่างๆ ที่ยังอยู่ในการควบคุมของฝ่ายยูเครน ก่อนอื่นเลย เคียฟต้องกวาดทุ่นระเบิดของฝ่ายตนเสียก่อน จากนั้นรัสเซียจะได้เข้าไปตรวจสอบและคุ้มกันเรือต่างๆ ออกสู่น่านน้ำสากล

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอเจนซีส์)