มีเพียงโรมเท่านั้นที่เตรียมอนุมัติสถานะ "ผู้สมัคร" เข้าร่วมสหภาพยุโรปแก่ยูเครน ผิดกับสมาชิกหลักรายอื่นๆ ทั้งหมดของอียูต่างคัดค้าน จากการเปิดเผยของนายมาริโอ ดรากิ นายกรัฐมนตรีอิตาลีเมื่อวันอังคาร (31 พ.ค.) ในขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่ของกลุ่มกำลังหาทางร่างข้อเสนอแบบเร่งรัดขั้นตอน เพื่อให้สามารถอนุมัติสถานะประเทศผู้สมัครแก่เคียฟได้ในเดือนมิถุนายน
"เกือบทุกประทศสมาชิกหลักๆ ของอียูคัดค้านการมอบสถานะผู้สมัครแก่ยูเครน ยกเว้นแต่อิตาลี" ดรากิ แถลงกับผู้สื่อข่าวในบรัสเซลส์ ตอบคำถามจากสำนักข่าวอันซา สื่อมวลชนอิตาลี "เวลานี้สถานะผู้สมัครไม่สามารถคาดเดาได้ สืบเนื่องจากเสียงคัดค้านจากประเทศเหล่านี้"
ดรากิ คาดหมายว่าคณะกรรมการยุโรปจะเสนอแผนหนึ่งสำหรับเร่งรัดกระบวนการอนุมัติสถานะผู้สมัครในอนาคตแก่ยูเครน ณ ที่ประชุมในเดือนมิถุนายน
ยูเครน ยื่นใบสมัครสำหรับการเป็นสมาชิกอียูเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หรือ 4 วันหลังจากถูกรัสเซียรุกราน และทางคณะกรรมาธิการยุโรปยอมรับ "แรงบันดาลใจอียูและทางเลือกอียูของยูเครนในเดือนมีนาคม" พร้อมบอกว่าได้ผ่านเอกสารที่เคียฟยื่นต่อคณะกรรมาธิการยุโรปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม รัสเซียแถลงว่าการเข้าเป็นสมาชิกอียูของยูเครน จะเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้สำหรับมอสโก เช่นเดียวกับกรณีที่เคียฟจะเข้าร่วมนาโต้
รัสเซียโจมตีประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ หลังยูเครนล้มเหลวในการบังคับใช้เงื่อนไขต่างๆ ตามข้อตกลงมินสก์ที่ลงนามครั้งแรกในปี 2014 ท้ายที่สุดมอสโกก็ประกาศรับรองสาธารณรัฐโดเนตสก์และลูฮันสก์ ในภูมิภาคดอนบาส ในฐานะรัฐเอกราช
นับตั้งแต่นั้น เครมลินก็เรียกร้องให้ยูเครนประกาศตนอย่างเป็นทางการในฐานะประเทศเป็นกลาง ที่จะไม่มีวันเข้าร่วมพันธมิตรทหารนาโต้ที่นำโดยสหรัฐฯ เคียฟยืนกรานว่าปฏิบัติการของรัสเซียเป็นการรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุใดๆ และปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่าพวกเขามีแผนใช้กำลังยึดคืน 2 สาธารณรัฐดังกล่าว
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)