บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า พวกเขาเห็นพ้องกันในวันจันทร์ (30 พ.ค.) สำหรับการปรับลดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมากกว่า 2 ใน 3 ในทันที และจะขยับขึ้นแตะระดับ 90% ในช่วงปลายปี ผ่าทางตันสำหรับมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมาของกลุ่ม ที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย ตอบโต้กรณีรุกรายยูเครนเมื่อ 3 เดือนก่อน
คณะผู้แทนด้านการทูตเปิดเผยว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นการเปิดทางสำหรับส่วนประกอบอื่นๆ ของแพกเกจคว่ำบาตรรัสเซียรอบ 6 ของอียู ให้มีผลบังคับใช้ ในนั้นรวมถึงการตัด สเบอร์แบงก์ สถาบันการเงินใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ออกจากระบบธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ SWIFT
"มีข้อตกลงในการแบนการส่งออกน้ำมันรัสเซียมายังอียู" ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรปเขียนบนทวิตเตอร์ ในช่วงท้ายวันแรกของการประชุมซัมมิตบรรดาผู้นำ 27 ชาติสมาชิกของกลุ่ม เป็นเวลา 2 วัน "นี่ครอบคลุมการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในทันที มากกว่า 2 ใน 3 ตัดแหล่งเงินทุนสำคัญในกลไกสงครามของพวกเขา เพิ่มแรงกดดันสูงสุดต่อรัสเซีย ให้ยุติสงคราม"
อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่าความเคลื่อนไหวนี้ "จะเท่ากับการปรับลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมายังอียู 90% ในช่วงสิ้นปี" ในขณะที่ เยอรมนี และโปแลนด์ สัญญาว่าจะปฏิเสธการส่งมอบผ่านท่อลำเลียงหนึ่งที่เข้าสู่ในดินแดนของพวกเขา
ที่ประชุมของพวกผู้นำอียูในบรัสเซลส์ บรรลุข้อตกลงประนีประนอม ไม่นับรวมส่งมอบผ่านท่อลำเลียงในมาตรการคว่ำบาตร ท่ามกลางคำเตือนของฮังการี ว่า การระงับอุปทานดังกล่าวจะก่อความเสียหายร้ายแรงแก่เศรษฐกิจของพวกเขา
พวกผู้นำอียูเห็นพ้องว่ามาตรการคว่ำบาตรน้ำมัน จะให้ข้อยกเว้นกับฮังการี ดินแดนที่ไม่มีทางออกทางทะเลและต้องพึ่งพิงอย่างสูงต่อน้ำมันดิบที่ลำเลียงผ่านท่อมาจากรัสเซีย ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่เป็นตัวขัดขวางข้อตกลงก่อนหน้านี้ และประเทศอื่นๆ ที่มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความเคลื่อนไหวดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน คร่ำครวญบรรดาผู้นำอียูผ่านการปราศรัยทางไกล ว่า อ่อนข้อกับรัสเซียมากเกินไป
อียูกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียมาแล้ว 5 รอบ นับตั้งแต่มอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ แสดงออกถึงความรวดเร็วและเป็นหนึ่งเดียวกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาประสบปัญหาในการแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ส่วนหนึ่งในความพยายามยกระดับมาตรการคว่ำบาตร เนื่องจากมันก่อความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรป เพราะมากมายหลายประเทศต้องพึ่งพิงน้ำมันดิบรัสเซียเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม พวกผู้แทนทางการทูตเผยว่าท้ายที่สุดแล้วบรรดาผู้นำก็บรรลุข้อตกลงทางการเมืองในเรื่องห้ามนำเข้าน้ำมัน และจะมีการตกลงรายละเอียดกันหลังจากนี้
ระหว่างกล่าวปราศรัยกับที่ประชุมผู้นำอียู ก่อนมีการแถลงเกี่ยวกับข้อตกลงแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ทาง เซเลนสกี ตำหนิอียูต่อกรณีไม่มีความแน่วแน่ "ทำไมคุณต้องพึ่งรัสเซีย ตามแรงกดดันของพวกเขา และทำไมถึงไม่เป็นในทางกลับกัน รัสเซียควรต้องพึ่งพวกคุณ ทำไมรัสเซียถึงยังคงมีรายได้เกือบ 1 พันล้านยูโรในแต่ละวัน จากการขายพลังงาน" เซเลนสกี กล่าว
"ทำไมพวกธนาคารก่อการร้ายยังคงทำงานร่วมกับยุโรปและระบบธนาคารโลก นี่คือคำถามสำคัญ" เขากล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)
