ราคาน้ำมันทรงตัวในวันจันทร์ (23 พ.ค.) มุมมองความเป็นไปได้อุปสงค์พลังงานสูงขึ้นในฤดูกาลขับขี่ ถูกฉุดรั้งโดยความกังวลทางเศรษฐกิจ ส่วนวอลล์สตีทปิดบวกได้แรงหนุนจากภาคธนาคาร ขณะที่ทองคำขยับขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 110.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ ปิดที่ 113.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ภัยคุกคามต่างๆ ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก คือความกังวลสูงสุดของเวทีสัมมนาทางเศรษฐกิจประจำปีที่เมืองดาวอส ด้วยบางคนถึงขั้นวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกถดถอย
คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ไม่คาดหมายว่าเศรษฐกิจใหญ่ๆ ของโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่ก็ไม่ตัดความเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในแดนลบของตลาดน้ำมันถูกสกัดไว้จากความคาดหมายว่าอุปสงค์เบนซินจะยังคงสูงอยู่ ในขณะที่สหรัฐฯ ใกล้เข้าสู่ช่วงพีกสุดของฤดูกาลขับขี่ในช่วงปลายสัปดาห์นี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (23 พ.ค.) ปิดบวก ได้แรงหนุนจากสถาบันการเงินต่างๆ และการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากวอลล์สตรีทขยับลงต่อเนื่องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 618.34 จุด (1.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 31,880.24 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 72.39 จุด (1.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,973.75 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 180.66 จุด (1.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,535.28 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ดีดตัวขึ้น 5.1% หลังเจพี มอร์แกน เชส สถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มแนวโน้มรายได้จากอัตราดอกเบี้ยในปีปัจจุบัน ทั้งนี้ การประมาณการดังกล่าวช่วยดันหุ้นของเจพี มอร์แกน เชส ปิดบวกถึง 6.2%
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (23 พ.ค.) ปิดบวก 3 วันติด นับเป็นการดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,847.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)