น้ำมันลงแรงต่อเนื่อง-ทองปิดลบ ดาวโจนส์ร่วงพันจุดผวาเงินเฟ้อกระทบธุรกิจค้าปลีก

ราคาน้ำมันขยับลงต่อเนื่องในวันพุธ (18 พ.ค.) นักลงทุนทบทวนความเคลื่อนไหวของจีนที่เตรียมยุติมาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 กับข้อมูลสต๊อกปิโตรเลียมของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งแรงกังวลสถานการณ์ค้าปลีกภายในประเทศท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ทองคำปิดลบ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 2.81 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 2.81 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นักลงทุนทบทวนความเป็นไปได้ที่อุปสงค์น้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นในจีน จากการที่นครเซี่ยงไฮ้วางแผนที่จะยุติมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 1 มิถุนายน หลังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในชุมชนติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ซึ่งถือเป็นการบรรลุเป้าหมายสำคัญที่ทางการเซี่ยงไฮ้กำหนดไว้เพื่อเป็นเกณฑ์สำหรับการเริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มานานกว่า 6 สัปดาห์

ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้ เนื่องจากโรงกลั่นต่างๆ ยกระดับกำลังการกลั่นตอบสนองต่อสต๊อกเชื้อเพลิงที่ลดลงฮวบฮาบและการส่งออกใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดันราคาดีเซลและเบนซินในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดเท่าที่เคยมีมา

ศักยภาพการกลั่นทั้งชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งอ่าวอยู่เหนือ 95% ส่งผลให้โรงกลั่นต่างๆ ดำเนินการผลิตใกล้ถึงขีดจำกัดสูงสุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (18 พ.ค.) ปิดลบแรง ห้างค้าปลีกชื่อดัง "ทาร์เก็ต" สูญเสียมูลค่าการตลาดไปราวๆ 1 ใน 4 ตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจอเมริกา หลังห้างค้าปลีกแห่งนี้กลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดของราคาที่พุ่งสูง

ดาวโจนส์ ลดลง 1,164.52 จุด (3.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 31,490.07 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 165.17 จุด (4.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,923.68 จุด แนสแดค ลดลง 566.37 จุด (4.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,418.15 จุด

กำไรของมาร์เก็ต คอร์ป ลดลงครึ่งหนึ่งและทางบริษัทเตือนว่าผลประกอบการของพวกเขาอาจได้รับผลกระทบหนักหน่วงกว่านี้จากราคาน้ำมันและค่าขนส่งที่พุ่งสูง

หุ้นของมาร์เก็ต คอร์ป ลดลง 25% สูญเสียมูลค่าการตลาด 25,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นวันซื้อขายที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์แบล็กมันเดย์ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 1987

ข้อมูลของมาร์เก็ต คอร์ป ถูกเผยแพร่ออกมาหนึ่งวันหลัง วอลมาร์ต บริษัทคู่แข่งปรับลดประมาณการผลกำไรของทางบริษัท ก่อความกังวลว่าธุรกิจค้าปลีกกำลังตกเป็นเหยื่อของภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งทะยาน

ด้านราคาทองคำในวันพุธ (18 พ.ค.) กลับมาขยับลงอีกครั้ง หลังฟื้นตัวมา 2 วันติด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,815.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา : รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)