ราคาน้ำมันปิดผสมผสานในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) ท่ามกลางความกังวลทางอุปทานและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรป ส่วนทองคำดิ่งลงหนักจากดอลลาร์แข็งค่า ขณะที่วอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ยังมีความกังวลว่าเฟดจะจำเป็นต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ 106.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 107.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อียูยังคงถกเถียงกันในข้อเสนอห้ามนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย ซึ่งมาตรการใดๆ นั้นจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ ทั้งนี้ การลงมติถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากฮังการีแสดงจุดยืนคัดค้าน โดยระบุว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะก่อความยุ่งเหยิงแก่ระบบเศรษฐกิจของพวกเขา
อีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันก็คือ การขยายวงมาตรการล็อกดาวน์สกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของจีน ชาติผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก ซึ่งก่อความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงาน
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และปัจจัยนี้เองฉุดให้ทองคำขยับลงหนักในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 29.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,824.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.) ซื้อขายผันผวน ก่อนปิดในกรอบแคบๆ นักลงทุนกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อของอเมริกายังไม่ถึงจุดสูงสุดและอาจดีดตัวขึ้นมากกว่านี้ ซึ่งอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ใช้นโยบายเชิงรุกมากยิ่ง
ดาวโจนส์ ลดลง 103.81 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 31,730.30 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.10 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,930.08 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 6.73 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,370.96 จุด
ข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดคือตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตซึ่งเผยแพร่ก่อนปิดตลาด บ่งชี้ว่าการเติบโตของราคาอาจถึงจุดสูงสุดแล้วในเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนไม่คิดเช่นนั้น และคาดหมายว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงอย่างต่ำ 0.50% อีกอย่างน้อย 3 ครั้งในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ในความพยายามสยบเงินเฟ้อและควบคุมราคาที่ดีดตัวสูงขึ้น
(ที่มา : รอยเตอร์)