ราคาน้ำมันขยับลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันอังคาร (10 พ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากแนวโน้มอุปสงค์อ่อนแอจากเหตุล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 ในจีนและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ปัจจัยหลังนี้ฉุดทองคำปรับลด ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวกจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 3.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 3.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์มองว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมันเป็นผลจากความกังวลต่ออุปสงค์ที่ลดลงฮวบฮาบในจีน สืบเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์สกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และรัสเซียปรับลดราคาน้ำมันในตลาด นอกจากนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นยังทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ความเคลื่อนไหวของดอลลาร์ ยังฉุดให้ทองคำในวันอังคาร (10 พ.ค.) ปิดลบแรง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 17.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,841.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (10 พ.ค.) เคลื่อนไหวผันผวน ก่อนปิดผสมผสาน ได้แรงหนุนจากแรงช้อนซื้อหลังดิ่งลงหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ แต่ขณะเดียวกัน ถูกฉุดรั้งจากความกังวลเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยมากยิ่งขึ้นเพื่อจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ
ดาวโจนส์ ลดลง 84.96 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 32,160.74 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.81 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,001.05 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 114.42 จุด (0.98 ปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,737.67 จุด
วอลล์สตรีทซื้อขายผันผวน เคลื่อนไหวแกว่งตัวไปมาระหว่างแดนลบกับแดนบวก นักลงทุนมีความกังวลก่อนหน้าที่สหรัฐฯ มีกำหนดเผยแพร่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคในวันพุธ (11 พ.ค.)
เร็วๆ นี้เกิดแรงเทขายในตลาด จากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจใช้มาตรการเชิงรุกมากยิ่งขึ้นในความพยายามควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ วอลล์สตรีทยังถูกกดดันจากปัจจัยอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
(ที่มา : รอยเตอร์)
