ราคาน้ำมันฟื้นแรงในวันพุธ (11 พ.ค.) หลังแก๊สรัสเซียที่ไหลไปยังยุโรปโดยผ่านยูเครนมีปริมาณลดลง ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ และทองคำขยับขึ้นจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดของสหรัฐฯ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 5.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 105.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 5.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันและแก๊สดีดตัวขึ้นมานับตั้งแต่มอสโกรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตามด้วยความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ และพันธมิตรที่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงต่อรัสเซีย การซื้อขายน้ำมันดิบลดลงและรัสเซียขู่ตัดการส่งมอบแก๊สสู่ยุโรป แม้ยังไม่ได้ดำเนินการตามคำขู่ดังกล่าวก็ตาม
แก๊สรัสเซียที่ไหลไปยังยุโรปโดยผ่านยูเครน มีปริมาณลดลงไปราวหนึ่งในสี่เมื่อวันพุธ (11 พ.ค.) หลังจากเคียฟระงับไม่ให้ใช้เส้นทางขนส่งผ่านดินแดนของตนเส้นหนึ่ง โดยประณามว่าเพราะถูกกองทหารรัสเซียแทรกแซง นับครั้งแรกที่การส่งออกผ่านยูเครนประสบความวุ่นวายนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกราน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (11 พ.ค.) ปิดลบ หลังอเมริกาเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด แม้ต่ำกว่าเดือนมีนาคม แต่ยังคงใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
ดาวโจนส์ ลดลง 326.63 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 31,834.11 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 65.87 จุด (1.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,935.18 จุด แนสแดค ลดลง 373.43 จุด (3.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,364.24 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% แต่ต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1981
นอกจากนี้ ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% แต่ต่ำกว่าระดับ 1.2% ในเดือนมีนาคม
ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.0% แต่ต่ำกว่าระดับ 6.5% ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1982
รอยเตอร์ระบุว่า ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภครายเดือนของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าเงินเฟ้ออาจถึงจุดสูงสุดแล้วในเดือนเมษายน แต่ดูเหมือนว่ายังคงอยู่ในระดับสูงเพียงพอที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องหาทางฉุดมันลงมา
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (11 พ.ค.) ปิดบวก ขยับขึ้นวันเดียวมากสุดในรอบ 1 สัปดาห์ นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำจากความกังวลต่อข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่สูงเกินคาด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 12.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,853.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)