ยูเครนในวันอังคาร (26 เม.ย.) เปิดเผยว่ารัสเซียกำลังเล็งเป้าหมายเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่เคียฟพึ่งพิงรับมอบอาวุธจากพันธมิตรตะวันตก หลังมีรายงานเกี่ยวกับการโจมตีเส้นทางสายหนึ่งที่เชื่อมไปยังโรมาเนีย ขณะเดียวกันทางสหราชอาณาจักรเร่งพันธมิตรต้องพร้อมสำหรับสงครามที่ลากยาว และเรียกร้องให้ยกระดับกำผลิตด้านการทหารเพื่อช่วยเหลือยูเครน
แอนทอน เกราชเชนโก ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครน ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ว่า "รัสเซียกำลังทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของยูเครน สะพานและรางรถไฟ เพื่อชะลอการส่งมอบอาวุธจากพันธมิตรของเราไปยังแนวหน้า" เขากล่าว "เราต้องการระบบป้องกันภัยทางอากาศล้ำสมัยในทันที"
อเล็กซานเดอร์ คามีชิน ผู้อำนวยการการรถไฟของยูเครน เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า กองกำลังรัสเซียทำลายสะพานรถไฟแห่งนี้ที่พาดข้ามแม่น้ำนีสเตอร์ ในภูมิภาคโอเดสซา และกล่าวหากองกำลังรัสเซียทำการโจมตีอย่างเป็นระบบต่อโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ
กระทรวงสาธารณูปโภคของยูเครนระบุในเวลาต่อมาว่า การโจมตีของรัสเซียก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สะพานรถไฟ ดังนั้นจำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมากและต้องใช้เวลาในการซ่อมแซม
เส้นทางนี้เชื่อมเมืองโอเดสซา ทางภาคใต้ของยูเครน ไปยังเพื่อนบ้านอย่างโรมาเนีย
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายในวันจันทร์ (25 เม.ย.) ในเหตุรัสเซียยิงถล่มสถานีรถไฟในภูมิภาควินนีตเซีย ถือเป็นการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานการเดินรถไฟที่มีความสำคัญทั้งภายในประเทศ และสำหรับเชื่อมต่อข้ามพรมแดน
สถานีรถไฟหลายแห่งเคยตกเป็นเป้าหมายโจมตีก่อนหน้านี้ เช่น สถานีไฟครามาทอร์สค์ ทางภาคตะวันออก ที่ถูกยิงถล่มในช่วงต้นเดือนเมษายน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย
การออกมาแฉเกี่ยวกับปฏิบัติการตัดเส้นทางลำเลียงอาวุธ มีขึ้นในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ออกมาชี้ว่าชะตากรรมของยูเครนกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย พันธมิตรต้องพร้อมสำหรับการสู้รบที่ลากยาว และต้องยกระดับกำลังผลิตด้านการทหาร ในนั้นรวมถึงรถถังและเครื่องบิน เพื่อช่วยยูเครน
ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ระบุว่า โครงสร้างด้านความมั่นคงของโลกล้มเหลวในการป้องกันการรุกรานของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ดังนั้น เธอจึงเรียกร้องขอให้มีแนวทางใหม่ๆ "เราไม่อาจพึงพอใจได้ ชะตากรรมของชาวยูเครนยังคงแขนอยู่บนเส้นด้าย"
"ชัยชนะของปูตินจะเป็นผลลัพธ์ที่น่าสยดสยองทั่วโลก และควรส่งมอบอาวุธให้ยูเครนเพิ่มเติม รวมถึงอาวุธหนัก แม้มันเสี่ยงทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายก็ตาม เราต้องเตรียมการสำหรับเส้นทางที่ยาวไกลและยกระดับสนับสนุนของเราที่มอบแก่ยูเครนเป็น 2 เท่า อาวุธหนัก รถถัง และเครื่องบิน ตรวจสอบคลังสำรองของพวกเราอย่างละเอียด ยกระดับการผลิต เราจำเป็นต้องทำทั้งหมด"
ความคิดเห็นของ ทรัสส์ สะท้อนมุมมองของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า ความขัดแย้งอาจลากยาวจนถึงสิ้นปีหน้า
เมื่อวันจันทร์ (25 เม.ย.) เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมสหราชอาณาจักร เผยว่าประเทศของเขาจะมอบยานยนต์หุ้มเกราะแก่ยูเครน ขณะที่ยานยนต์หุ้มเกราะดังกล่าวมีแสนยานุภาพยิงขีปนาวุธใส่อากาศยานรัสเซียผู้รุกราน
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ยูเครนสามารถชนะสงครามเหนือรัสเซียได้ หากว่าได้อาวุธยุทโธปกรณ์เหมาะสม
ทรัสส์ บอกด้วยว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเล่นงานรัสเซียจะต้องยกระดับหนักหน่วงขึ้น ในนั้นรวมถึงกรณียุโรปตัดการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย "ต้องไม่เหลือหนทางให้ปูตินเข้าถึงเงินทุนสำหรับทำสงครามอันน่าสยดสยอง" เธอกล่าว
(ที่มา : เอเอฟพี)