ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เปิดเผยว่ายูเครนหวังได้อาวุธหนักเพิ่มเติม ระหว่างการพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ที่จะเดินทางมายังกรุงเคียฟในวันอาทิตย์ (24 เม.ย.) ยุทโธปกรณ์ที่เขาบอกว่ามีความสำคัญยิ่งสำหรับการทวงคืนดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครอง พร้อมต้องการให้อเมริกาตกลงเป็นหนึ่งในผู้ค้ำประกันความปลอดภัย ปกป้องพวกเขาจากภัยคุกคามในอนาคต
ผู้นำยูเครนเตือนด้วยว่า เคียฟจะลุกออกจากโต๊ะเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย หากว่ามอสโก "ทำลายประชาชนของเรา" ที่ถูกปิดล้อมในเมืองมาริอูโปล ที่ถูกสงครามฉีกขาด หรือจัดประชามติจัดตั้งสาธารณรัฐแบ่งแยกดินแดนเพิ่มเติม บนแผ่นดินของยูเครนที่เพิ่งยึดครองไปหมาดๆ
ระหว่างการแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก มีอยู่ช่วงหนึ่ง เซเลนสกี กล่าวว่าเขาคิดว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่เขาไม่ต้องการเชื่อว่ามอสโกจะทำเช่นนั้น พร้อมระบุมันสำคัญยิ่งสำหรับยูเครน ที่จำเป็นต้องได้รับมอบอาวุธเพิ่มเติม
"ตราบใดที่เรามี (อาวุธเพิ่มเติม) ตราบใดที่เรามีอาวุธมากพอ เชื่อผม เราจะยึดคืนดินแดนนั้นดินแดนนี้ที่ถูกยึดครองชั่วคราวในทันที" เขาบอกกับพวกผู้สื่อข่าว
เขาใช้การแถลงข่าวที่จัดขึ้นในระบบรถไฟฟ้าใต้ดินของกรุงเคียฟ ในการแจ้งว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ใกล้เดินทางมาถึงแล้ว เพื่อพูดคุยหารือกันในวันอาทิตย์ (24 เม.ย.)
"วันพรุ่งนี้ เราจะหรือกันถึงรายชื่ออาวุธที่มีความจำเป็นสำหรับเราจริงๆ" และความรวดเร็วในการส่งมอบ" เขากล่าว "เราคาดหมายสิ่งนี้ เราอยากได้อาวุธหนักทรงอานุภาพ"
มีอยู่ช่วงหนึ่งระหว่างการแถลงข่าว เซเลนสกี พยายามกลั้นน้ำตา บอกว่าเขารู้สึกเจ็บปวดร่วมกับประชาชนชาวยูเครนทุกคนที่สูญเสียลูกๆ ไปในสงครามของรัสเซีย และเผยว่าเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธในวันเสาร์ (23 เม.ย.) คร่าชีวิตผู้คนในเมือโอเดสซาไปอย่างน้อย 8 ราย ในนั้นรวมถึงเด็กอายุ 3 เดือนรายหนึ่ง
เขาบอกว่าในวันเสาร์ (23 เม.ย.) เป็นหนึ่งในวันที่ยากลำบากที่สุดของกองกำลังยูเครนที่ถูกปิดล้อมในมาริอูโปล พร้อมเผยว่าเคียฟได้เสนอข้อตกลงแลกเปลี่ยนทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อบรรลุข้อตกลงปล่อยตัวพวกเขา ในขณะที่กองกำลังยูเครนเหล่านี้กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงงานถลุงเหล็กแห่งหนึ่ง
เซเลนสกีคาดหมายด้วยว่าสหรัฐฯ จะพูดคุยกับเยอรมนี เกี่ยวกับการจัดหาอาวุธให้แก่ยูเครน
นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังต้องการให้สหรัฐฯ ตอบตกลงเป็นหนึ่งในผู้ค้ำประกันความปลอดภัยแก่พวกเขา สำหรับปกป้องยูเครนจากภัยคุกคามใดๆ ในอนาคต
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)