สหรัฐฯ ในวันอังคาร (26 เม.ย.) รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพการประชุมหนึ่งในเยอรมนี ซึ่งคาดหมายว่าจะมีมากกว่า 40 ประเทศเข้าร่วมหารือในประเด็นกลาโหมเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในยูเครน ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาอาวุธแก่เคียฟ เพื่อที่เคียฟจะสามารถปกป้องตนเองจากการจู่โจมของกองทัพรัสเซีย ที่กำลังมุ่งโจมตีภาคตะวันออกของยูเครน
เจ้าหน้าที่อเมริกาเปิดเผยว่า ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะจัดการประชุมที่ฐานทัพอากาศแรมสไตน์ ในเยอรมนี หลังเพิ่งเดินทางเยือนกรุงเคียฟ ซึ่งเขาใช้โอกาสนี้มอบคำสัญญาว่าสหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่กำลังพยายามสู้รบต้านทานการรุกรานของรัสเซีย
พล อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ ระบุว่า เป้าหมายหลักของการพูดคุยคือประสานงานและยกระดับความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่เคียฟ ในนั้นรวมถึงอาวุธหนัก อย่างเช่นปืนใหญ่วิถีโค้ง เช่นเดียวกับโดรนติดอาวุธและกระสุน
"ในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้าจะมีความสำคัญยิ่ง" พล.อ.มิลลีย์ บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางร่วมกับ ออสติน "พวกเขาต้องการแรงสนับสนุนต่อเนื่องเพื่อความสำเร็จในสมรภูมิรบ และนี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการประชุมนี้"
หลังจากล้มเหลวในการโจมตีกรุงเคียฟ ทางภาคเหนือของประเทศและถูกกองกำลังยูเครนผลักดันจนต้องล่าถอย เวลานี้มอสโกจัดวางกำลังพลใหม่ในทางภาคตะวันออกของยูเครน เพื่อจู่โจมทางภาคพื้นใน 2 สาธารณรัฐที่เรียกว่าภูมิภาคดอนบาส
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ประเมินว่า รัสเซียจะพึ่งพิงอย่างหนักต่อการโจมตีด้วยปืนใหญ่ ถล่มฐานที่มั่นต่างๆ ของยูเครน เปิดทางสำหรับเคลื่อนกองกำลังทางภาคพื้นจากหลายทิศทาง ในความพยายามโอบล้อมและกำจัดกองกำลังของยูเครน
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ คาดหมายว่ารัสเซียสูญเสียทหารไปมากมายหลายหน่วยเช่นกัน บางหน่วยยังคงเดินหน้าปฏิบัติการ แม้สูญเสียกำลังพลไปแล้วสูงถึง 30% ระดับที่ทางกองทัพสหรัฐฯ มองว่าสูงเกินไปที่จะเดินหน้าสู้รบต่อ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อ้างถึงเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นรถถังรัสเซียเหลือพลขับเพียงนายเดียว ไม่มีลูกทีม และเครื่องไม้เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน มีแนวโน้มที่จะพังหรือไม่ก็มีอายุใช้งานเก่าเก็บ
เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมแห่งสหราชอาณาจักร ในวันจันทร์ (25 เม.ย.) ระบุว่าจากการประเมินของสหราชอาณาจักร เชื่อว่ามีบุคลากรทางทหารรัสเซียเสียชีวิตในความขัดแย้งแล้วราวๆ 15,000 นาย และยานยนต์หุ้มเกราะ 2,000 คันถูกทำลาย ในนั้นรวมถึงรถถัง 530 คัน เช่นเดียวกับเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินขับไล่ 60 ลำ
จนถึงตอนนี้ รัสเซียระบุว่าพวกเขาสูญเสียกำลังทหารไปเพียง 1,351 นาย และได้รับบาดเจ็บ 3,825 ราย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่ารัสเซียยังคงมีศักยภาพขั้นสูงและมีจำนวนกำลังพลที่เหนือกว่า และแสดงความตั้งใจที่จะเดินหน้าระดมส่งทหารและหน่วยรบต่างๆ เข้าสู่การสู้รบ
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมและนักเศรษศาสตร์ ยอมรับด้วยว่ามอสโกมีความสามารถทางเศรษฐกิจที่จะก่อสงครามยืดเยื้อในยูเครน แม้กำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกก็ตาม
ในส่วนของยูเครน พวกเขาอวดอ้างว่ามีขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม มียุทธศาสตร์สมรภูมิรบที่สร้างสรรค์และยืดหยุ่น รวมถึงรู้จักภูมิประเทศในพื้นที่เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับได้รับการสนับสนุนทางอาวุธและข่าวกรองจากสหรัฐฯ และพันธมิตร
ออสติน ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางเยือนยูเครนว่า "พวกเขาสามารถคว้าชัยชนะ หากพวกเขาได้ยุทโธปกรณ์ และการสนับสนุนที่เหมาะสม"
การประชุมกันครั้งนี้ ซึ่งมีเป้าหมายหาทางรับประกันส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง มีกำหนดจัดขึ้นถึงฐานทัพอากาศแรมสไตน์ ในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งไม่กี่เดือนก่อนเพิ่งเต็มไปด้วยคลื่นผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถาน หลังตอลิบานบุกยึดอัฟกานิสถานเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน
(ที่มา : รอยเตอร์)