คาดมอสโกเล็งเผด็จศึก ‘มาริอูโปล’ วันอังคาร ยูเครนตั้งข้อหาใหม่ใส่รัสเซียทั้งใช้อาวุธเคมี-ข่มขืนผู้หญิง
เชื่อกันว่ารัสเซียกำลังพยายามเชื่อมแหลมไครเมียซึ่งมอสโกเข้ายึดและผนวกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศตนมาตั้งแต่ปี 2014 ให้สามารถติดต่อทางบกได้กับแคว้นโดเน็ตสก์ และแคว้นลูฮันสก์ในภูมิภาคดอนบาสส์ ทางด้านตะวันออกของยูเครน และจุดสำคัญที่สุดในการดำเนินตามแผนการนี้ในขณะนี้คือจะต้องยึดเมืองมาริอูโปลให้ได้
ขณะที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการกองทัพบกยูเครนด้านการวางแผนและปฏิบัติการโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า มีแนวโน้มที่รัสเซียจะพยายามเข้ายึดมาริอูโปลในวันอังคาร
ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า กองทัพเพิ่มความพยายามในการทำลายแนวต้านของยูเครนในมาริอูโปลด้วยการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่ โดยเป้าหมายสำคัญคือโรงงานเหล็กและเหล็กกล้า “อาซอฟสตัล” ที่อยู่ทางตอนเหนือของเมือง ซึ่งพวกข้าศึกรวมศูนย์กำลังอยู่ตรงนั้น
ทว่า กองทัพยูเครนยืนยันว่า ยังสามารถปกป้องมาริอูโปลไว้ได้
ขณะเดียวกัน ระหว่างการปราศรัยเมื่อคืนวันจันทร์ (11) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้พันธมิตรจัดหาอาวุธเพิ่มเพื่อปกป้องยูเครนและยุติการทำลายล้างของศัตรู
วันเดียวกันนั้น เซเลนสกีแถลงผ่านวิดีโอลิงก์ต่อสภาแห่งชาติของเกาหลีใต้ โดยระบุว่า รัสเซียทำลายมาริอูโปลราบเป็นหน้ากลองและเผาเป็นจุณ อีกทั้งสังหารพลเรือนอย่างน้อยหลายหมื่นคน
ต่อมาในวันอังคาร เซเลนสกีกล่าวปราศรัยโดยตั้งข้อหาใหม่เพิ่มให้รัสเซีย เขาอ้างว่าพวกเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนได้รับรายงานว่า “มีคดีข่มขืนเป็นร้อยๆ คดี” ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งทหารรัสเซียยึดครองเอาไว้ก่อนหน้านี้ รวมทั้งมีการทำร้ายทางเพศต่อเด็กเล็กๆ อีกด้วย
เมื่อคืนวันจันทร์ อังกฤษเผยว่า กำลังพยายามตรวจสอบรายงานของฝ่ายยูเครนที่ว่า รัสเซียใช้อาวุธเคมีในมาริอูโปล
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตะวันตกพากันแสดงความกังวลว่า ขณะที่ความขัดแย้งล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 7 มอสโกอาจเลือกใช้มาตรการรุนแรง เช่น อาวุธเคมี
อิวานนา คลิมพุช สมาชิกรัฐสภายูเครน เผยว่า รัสเซียใช้ “สารที่ไม่เป็นที่รู้จัก” และทำให้ประชาชนหลายคนมีภาวะการหายใจล้มเหลว
แกนนา มาลิอาร์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมยูเครน แถลงว่า การโจมตีที่ถูกระบุว่า ใช้อาวุธเคมี มีแนวโน้มเป็นกระสุนฟอสฟอรัส และรัฐบาลจะเปิดเผยข้อสรุปอย่างเป็นทางการต่อไป
ด้านพาฟโล ไครีเลนโก ผู้ว่าการแคว้นโดเนตสก์ ของทางการเคียฟ เผยว่า ได้เห็นรายงานความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธเคมีในมาริอูโปล แต่ไม่สามารถยืนยันได้ และสำหรับตัวเขา คาดว่ามีผู้เสียชีวิตในเมืองนี้ 20,000-22,000 คน แต่สำทับว่า จำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องอย่างรอบคอบ
ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งในเดือนนี้มีอังกฤษเป็นประธานตามวาระ ได้มีการผลักดันให้หารือกันในเรื่องเกี่ยวกับชะตากรรมของผู้หญิงและเด็กในยูเครน โดยฝ่ายตะวันตกเรียกร้องให้สอบสวนกรณีการข่มขืนและความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงยูเครนโดยทหารรัสเซีย และกำหนดจะหารือกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเพื่อกดดันรัสเซีย
ทว่า รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวหาว่า รัฐบาลยูเครนถูกอเมริกาและอังกฤษชักใยให้เผยแพร่หลักฐานเท็จว่า รัสเซียใช้ความรุนแรงกับพลเรือน ทั้งที่มอสโกดำเนินมาตรการอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพื่อปกป้องพลเรือน
ในส่วนของการสู้รบนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกข่าวว่า รัสเซียเสริมกำลังรอบดอนบาสส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้เมืองอีเซียม แต่ยังไม่ได้เปิดฉากบุกเต็มพิกัด
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยืนยันภายหลังการหารือกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุสเมื่อวันจันทร์ว่า ความมั่นคงของรัสเซียตกอยู่ในความเสี่ยงในดอนบาสส์ นอกจากนั้น รัสเซียยังมีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว
การระดมกำลังเตรียมสู่รบใหญ่ในดอนบาสส์บ่งชี้ให้เห็นว่าความหวังที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยแนวทางการทูตนั้นริบหรี่เต็มที ดังเช่นที่นายกรัฐมนตรีคาร์ เนแฮมเมอร์ ของออสเตรีย กล่าวภายหลังพบกับปูตินเมื่อวันจันทร์ว่า เขามองแง่ลบเกี่ยวกับความพยายามแก้ปัญหา หลังจากปูตินเข้าสู่ตรรกะของสงคราม
นอกจากนั้น ในวันอังคาร ปูตินยังประกาศว่า ปฏิบัติการทางทหารของมอสโกจะต้องบรรลุวัตถุประสงค์ “อันสง่างาม” อย่างไม่ต้องสงสัย
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, อาร์ที)