รองนายกรัฐมนตรียูเครนให้สัมภาษณ์กับสื่อตะวันตก กล่าวหารัสเซียกำลังโจมตีเป้าหมายพลเรือนต่างๆ ในยูเครน ในนั้นรวมถึงโรงพยาบาล สถานเลี้ยงเด็กอ่อน และโรงเรียน สอดคล้องกับความกังวลขององค์การนามัยโลกและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (เอ็นจีโอ)
โอลฮา สเตฟานิชินา บอกกับสำนักข่าวบีบีซี ว่า หลังจากถูกต้านทานอย่างเข้มแข็งจากกองทัพยูเครน รัสเซียได้เปิดปฏิบัติการชั่วช้าโจมตีเล่นงานพลเรือน
บีบีซีรายงานว่าแค่ในวันอาทิตย์ (4 มี.ค.) ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีกันอยู่ 4 คน เสียชีวิต หลังลูกระเบิดของรัสเซียตกใส่กลุ่มประชาชนที่กำลังหลบหนีความขัดแย้งในเมืองเออร์พิน และที่เมืองมาริอูโปล การอพยพผู้คนจำนวนมากต้องหยุดชะงัก
เมืองแห่งนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการถูกปิดล้อม ไม่มีน้ำ ไฟฟ้า สุขอนามัย ในขณะที่อาหารและน้ำกำลังหมดลงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ทางสภาเมืองเผยว่า แผนที่จะพาพลเรือนไปยังพื้นที่ปลอดภัยต้องหยุดชะงักเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากการยิงปืนใหญ่ถล่มของรัสเซีย ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการอพยพ กระนั้นก็ตาม ทางรัสเซียกล่าวโทษไปที่ทหารยูเครน
องค์การอนามัยโลกระบุว่า สถานพยาบาลต่างๆ ถูกโจมตี และทาง เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เผยว่าการโจมตีเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายคน
รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุในการอัปเดตข้อมูลข่าวกรอง กล่าวหารัสเซียเล็งเป้าถล่มพื้นที่ชุมนุม "ในตำแหน่งต่างๆ มากมายหลายจุด" พร้อมบอกว่ารัสเซียเคยใช้กลยุทธ์แบบเดียวกันนี้มาก่อนในเชเชนปี 1999 และในซีเรียปี 2016
ในวันอาทิตย์ (4 มี.ค.) หน่วยงานเฝ้าระวังของสหประชาชาติ ระบุว่า มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 364 รายในยูเครน นับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซียเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก ขณะเดียวกัน ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติบอกด้วยว่าจนถึงตอนนี้มีประชาชนหลบหนีออกจากยูเครนแล้วมากกว่า 1.5 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม รัสเซียปฏิเสธไม่ได้มีเป้าหมายเล่นงานพลเรือน โดยบอกว่าพวกเขา "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" กับพวกผู้ชาตินิยมยูเครนและพวกนีโอนาซี
สเตฟานิชินา กล่าวหารัสเซียว่าให้กลยุทธ์ทางทหารโดยตรงในเมืองต่างๆ ของยูเครน พร้อมระบุว่ามอสโกกำลังปฏิบัติการแผนก่อการร้าย ด้วยการโจมตีมาจากทั้งทางอากาศ และทางภาคพื้น
"ระเบิดลงโรงพยาบาลต่างๆ ระเบิดตกใส่โรงเรียนอนุบาลและโรงเรียน และบ้านเรือนประชาชนทั่วไป" เธอกล่าว "นี่คือภาพแห่งความเป็นจริง" พร้อมกล่าวหา "สหพันธรัฐรัสเซียกำลังใช้แผนก่อการร้ายกับยูเครนอีกระลอก"
สเตฟานิชินา อ้างว่ารัสเซียกำลังสูญเสียกำลังทหารและยุทโธปกรณ์จำนวนมหาศาล แต่มันก็ไม่อาจยับยั้งรัสเซียได้แม้แต่น้อย "มันยิ่งแต่ยุให้มีการรุกรานหนักหน่วงขึ้น" เธอกล่าว
นอกเหนือจากองค์การอนามัยโลกแล้ว องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอื่นๆ ก็รายงานเกี่ยวกับการโจมตีเป้าหมายพลเรือนเช่นกัน ในนั้นรวมถึงองค์การนิรโทษกรรมสากล ที่อ้างว่าพวกเขาได้ตรวจสอบการโจมตีต่างๆ ในนั้นรวมถึงระเบิดพวงตกลงใส่โรงเรียนอนุบาลและสถานรับเลี้ยงเด็กเล็กแห่งหนึ่ง และขีปนาวุธแบบทิ้งตัวโจมตีโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
การโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือน อย่างเช่นโรงเรียนและโรงพยาบาล ถือว่าละเมิดอนุสัญญาเจนีวา ซึ่งเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีสาระสำคัญในเรื่องกฎเกณฑ์ที่จำกัดวิธีการอันทารุณในการทำสงคราม
(ที่มา : บีบีซี)
