xs
xsm
sm
md
lg

UN ชี้คนยูเครนกว่าล้านหนีตายออกนอกประเทศ รัสเซียตีเมืองใหญ่ภาคใต้แตก ขณะจีนโต้ไม่มีเอี่ยวสงคราม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้หญิงและเด็กๆ ที่หลบหนีภัยสงครามออกจากยูเครนมาถึงโปแลนด์  นอนพักกันในภายในสถานีรถไฟ ซึ่งจัดเป็นที่พักพิงชั่วคราว ณ เมืองปรเซเมซิล ประเทศโปแลนด์ วันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) สหประชาชาติแถลงว่า มีผู้ลี้ภัยหลบหนีออกจากยูเครนกว่า 1 ล้านคนแล้ว
ยูเอ็นเผยประชาชนกว่าล้านหนีออกจากยูเครนหลังถูกมอสโกรบุก ซึ่งอาจกลายเป็นวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษนี้ ขณะที่กองทัพรัสเซียถล่มโจมตีเมืองใหญ่อันดับ 2 ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออก และเมืองท่าทางยุทธศาสตร์อีก 2 แห่งทางใต้ของยูเครน ท่ามกลางข่าวที่ว่า เครมลินเข้ายึดเมืองหนึ่งได้แล้ว

ตัวเลขที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสฯ (3 มี.ค.) ระบุว่า ชาวยูเครนกว่าล้านคนหรือกว่า 2% ของประชากรยูเครนทั้งหมด ถูกบีบให้หนีออกนอกประเทศในช่วง 7 วันที่ผ่านมาจนถึงวันพุธ (2) และสถานการณ์นี้อาจนำไปสู่วิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษนี้

คาดกันว่าในช่วงต่อไปอาจจะเกิดการอพยพครั้งใหญ่ในคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ที่มีประชากร 1.5 ล้านคน และตั้งอยู่ในยูเครนตะวันออก โดยที่มีผู้คนมากมายพยายามหลบกระสุนปืนใหญ่และจรวดขีปนาวุธ ไปยังสถานีรถไฟที่มีคนเนืองแน่นเพื่อเบียดเสียดขึ้นรถไฟโดยที่ไม่แน่ใจว่าการเดินทางจะไปสิ้นสุดที่ใด

ด้านเจ้าหน้าที่กลาโหมอาวุโสของอเมริกาอ้างว่า ขบวนรถถังและยานยนต์ทางทหารจำนวนมากของรัสเซียซึ่งแล่นมาตามถนน 2-3 วันแล้ว ถูกสกัดอยู่ห่างจากเคียฟราว 25 กิโลเมตร ขณะที่แหล่งข่าวอื่นๆ บอกว่ากองทหารรัสเซียอาจมีเจตนาเคลื่อนทัพอย่างช้าๆ เพื่อหวังผลในการสร้างแรงกดดัน มากกว่ามีเจตนาจะเข้าโจมตีในทันที ขณะที่ตัวแทนของยูเครนและรัสเซียเตรียมเจรจาสันติภาพกันเป็นรอบที่สอง ในคืนวันพฤหัสฯ ที่เบลารุสเพื่อหาทางยุติการสู้รบ แม้ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนร่วมกันน้อยมากก็ตาม

เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ แถลงเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า มาริลโพล เมืองใหญ่ริมทะเลอะซอฟ ถูกกองทัพรัสเซียล้อมอยู่ และมีความเป็นไปได้ว่า เมืองเคอร์ซอนซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญอีกแห่งอาจถูกตีแตกตามที่รัสเซียประกาศ ขณะที่อิกอร์ โคลีเคฟ นายกเทศมนตรีเคอร์ซอน เผยว่า ไม่มีทหารยูเครนอยู่ในเมืองเลย และทหารรัสเซียได้เข้าไปในที่ทำการรัฐบาลแล้ว โดยเขาขอร้องไม่ให้ทหารรัสเซียยิงพลเรือน รวมทั้งยอมให้ขนย้ายศพผู้เสียชีวิตออกจากถนน แต่สำทับว่า ธงชาติยูเครนยังคงติดอยู่ในที่ทำการรัฐบาล

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งยูเอ็นแถลงว่า พลเรือนอย่างน้อย 227 คนเสียชีวิต และ 525 คนได้รับบาดเจ็บนับจากที่รัสเซียบุกยูเครน พร้อมสำทับว่า ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านั้น และก่อนหน้านี้ยูเครนอ้างว่า พลเรือนเสียชีวิตกว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ได้รับการยืนยันจากองค์กรอิสระ

ด้านรัสเซียเปิดเผยเป็นครั้งแรกนับจากเข้าโจมตียูเครนว่า ทหารเกือบ 500 นายเสียชีวิต และบาดเจ็บเกือบ 1,600 นาย ทว่า เจ้าหน้าที่ทหารยูเครนโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า รัสเซียสูญเสียทหารถึง 9,000 นาย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ตัวเลขนี้รวมทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหรือไม่

ในคลิปการปราศรัยที่เผยแพร่เมื่อเช้าวันพฤหัสฯ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ยกย่องประชาชนที่ร่วมกันต้านทหารรัสเซียและเรียกร้องให้จับมือกันสู้ต่อไป ก่อนทิ้งท้ายว่า ผู้บุกรุกจะไม่มีทางได้อยู่สงบสุขแม้แต่นาทีเดียว

ขณะเดียวกัน การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นิวยอร์ก ลงมติในวันพุธ ภายหลังการอภิปรายเป็นเวลา 2 วัน ด้วยคะแนน 141 ต่อ 5 ในญัตติตำหนิการที่รัสเซียบุกยูเครน พร้อมกับเรียกร้องให้มีการหยุดยิง และรัสเซียถอนออกจากยูเครนในทันที

ชาติที่ออกเสียงคัดค้านญัตตินี้ ได้แก่ เบลารุส ซีเรีย เอริเทรีย เกาหลีเหนือ และรัสเซีย นอกจากนั้นอีก 35 ประเทศงดออกเสียง โดยที่ในจำนวนนี้เป็น 3 ชาติใหญ่ในเอเชีย คือ จีน อินเดีย ปากีสถาน

ทางด้านศาลอาญาระหว่างประเทศ เปิดการสอบสวนความเป็นไปได้ของคดีอาชญากรสงคราม ขณะที่คณะกรรมการพาราลิมปิกสากลแบนนักกีฬารัสเซีย และเบลารุสไม่ให้ร่วมแข่งขันพาราลิมปิกฤดูหนาว

พาเวล เฟลเกนฮาวเออร์ นักวิเคราะห์ด้านการทหาร มองว่า ขณะที่เศรษฐกิจรัสเซียรับรู้ถึงผลกระทบจากมาตรการแซงก์ชันของตะวันตกแล้ว ยังอาจเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองภายในหากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่หาทางจบสงครามโดยเร็ว

อนึ่ง แม้กองทัพรัสเซียเข้าโจมตีในหลายพื้นที่ แต่กองทัพยูเครนระบุว่า มอสโกยังไม่บรรลุเป้าหมายหลักในการยึดเมืองมาริลโพล แต่กลับไม่กล่าวถึงเมืองเคอร์ซอน

วันพฤหัสฯ หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงตอบโต้ว่า รายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ที่ว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสจีนขอให้เจ้าหน้าที่อาวุโสรัสเซียอย่าเพิ่งโจมตียูเครนก่อนที่โอลิมปิกฤดูหนาวในปักกิ่งจะปิดฉาก เป็นเพียงข่าวปลอม และย้ำว่า การพยายามเบี่ยงเบนความสนใจและโยนความผิดให้ผู้อื่นด้วยวิธีนี้เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ

(ที่มา : เอพี, เอเอฟพี, รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น