แกะรอยเส้นทางบุกโจมตียูเครนของกองทัพรัสเซีย

กองทัพรัสเซียเคลื่อนไปถึงบริเวณชานกรุงเคียฟแล้ว ภายหลังเปิดฉากการรุกรานยูเครนแบบเต็มพิกัดจาก 3 ทิศทางหลัก

กองทหารรัสเซียกำลังเข้าโจมตีจากทางตอนเหนือของยูเครน จากทางตะวันออก โดยผ่านเมืองโดเน็ตสก์ เมืองลูฮันสก์ เมืองคาร์คิฟ และเมืองซูมี และจากใต้โดยผ่านแหลมไครเมีย

เป้าหมายหลายสิบแห่งในยูเครนถูกโจมตี ขณะที่กองทหารรัสเซียไหลบ่าเข้าไปในยูเครน

การสู้รบชิงกรุงเคียฟ

ในวันศุกร์ (25 ก.พ.) กองทหารรัสเซียเคลื่อนไปถึงโอโบลอน ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 9 กิโลเมตรจากศูนย์กลางของเคียฟ ทั้งนี้ ตามการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่ยูเครนหลายราย

รายงานข่าวต่างๆ บ่งชี้ว่า กำลังหลักของรัสเซียที่มุ่งหน้าเข้าสู่เคียฟนั้น มาจากเมืองอีวานคิฟ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง และจากเมืองเชร์นิฮิฟ ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งสองเมืองนี้อยู่กันคนละฟากของแม่น้ำดนีเปอร์ แม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลผ่ากลางประเทศยูเครน

กรุงเคียฟถูกระดมโจมตีด้วยขีปนาวุธ ขณะที่กองทหารรัสเซียเคลื่อนใกล้เข้ามา และตอนนี้ในบริเวณที่ทำงานของรัฐบาลกลางตรงใจกลางเมืองหลวงใกล้ๆ ทำเนียบประธานาธิบดี สามารถได้ยินเสียงปืน

กองทัพยูเครนรายงานว่า ได้ระเบิดทำลายสะพานแห่งหนึ่งที่ทอดข้ามแม่น้ำเตเรริฟ โดยเป็นสะพานซึ่งอยู่ในเมืองอิวานคิฟ ที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงราว 80 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อชะลอการบุกเข้ามาของฝ่ายรัสเซีย

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าเกิดการสู้รบอย่างดุเดือดที่สนามบินอันโตนอฟ ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของเคียฟ นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า กองทหารส่งกำลังทางอากาศของรัสเซียได้เข้าโจมตีสนามบินที่โฮสโตเมล ซึ่งอยู่บริเวณชานเมืองด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงยูเครน ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (24)

กองทหารรัสเซียตามจุดต่างๆ ในยูเครน

รัสเซียเวลานี้สามารถควบคุมดินแดนส่วนสำคัญๆ ของยูเครนเอาไว้ได้หลายส่วน

หลังจากรัสเซียถล่มโจมตีระบบการป้องกันทางอากาศ ตลอดจนโครงสร้างทางทหารอื่นๆ ของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี (24) ขบวนรถถังก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเข้าสู่ตำแหน่งต่างๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากปืนใหญ่และแสนยานุภาพทางอากาศ

ในบรรดาเป้าหมายแรกๆ ที่ถูกรัสเซียเล่นงาน ได้แก่ เคียฟ คาร์คิฟ โอเดซา และอิวาโน-ฟรันคิฟสก์

ทหารรัสเซียตอนนี้กระจายกำลังออกไปในส่วนต่างๆ ของภาคเหนือ ตะวันออก และตอนใต้ของยูเครน โดยมีการยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่เพื่อเปิดทางให้แก่กำลังทหารรัสเซียที่บุกเข้ามา

เคลื่อนทัพบุกโจมตีจากด้านเหนือ

จากตอนเหนือ เชื่อกันว่ากองทหารรัสเซียข้ามชายแดนเข้ามาในยูเครนที่แถวๆ เซนคิฟกา ซึ่งเป็นจุดที่พรมแดน 3 ประเทศได้แก่ ยูเครน รัสเซีย และเบลารุส บรรจบกัน

ในระยะ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทหารรัสเซียเคลื่อนทัพไปชุมนุมพลกันเป็นจำนวนมหึมา ที่บริเวณใกล้ๆ โนฟเย ยุร์โควิชิ และโตรเอบอร์ต

ขบวนยานยนต์หุ้มเกราะ ซึ่งมีทั้งรถถัง และยานสำหรับใช้ยิงจรวดแบบหลายลูกพร้อมๆ กัน ได้เคลื่อนผ่านเมืองเชร์นิฮิฟ บนเส้นทางตรงเข้าสู่เคียฟ

ขณะที่กำลังซึ่งบุกเข้ามาส่วนที่สอง ลงมาจากฟากตะวันตกของแม่น้ำดนีเปอร์ ผ่านเมืองเชร์โนบิล

เคลื่อนทัพบุกโจมตีจากด้านตะวันออก

ทางด้านตะวันออก เกิดการสู้รบกันรอบๆ เมืองคาร์คิฟ ที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน หลายส่วนของเมืองนี้ถูกถล่มด้วยปืนใหญ่

นอกจากนั้น ยังมีการสู้รบรอบๆ เมืองโดเน็ตสก์ ซึ่งถูกโจมตีจากกองทหารที่ข้ามพรมแดนจากเมืองเบลโกร็อด ในภาคตะวันตกของรัสเซีย

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ ของรัสเซีย รายงานโดยอ้างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซีย ระบุว่า พวกเขาได้เคลื่อนกำลังเข้าโจมตีเมืองซชัสเชีย ในเขตลูฮันสก์ ซึ่งรัฐบาลยูเครนควบคุมอยู่

แล้วก็มีรายงานว่าเกิดการสู้รบอย่างดุเดือดรอบๆ เมืองซูมี ซึ่งอยู่ใกล้ๆ คาร์คิฟ

เข้าใจกันว่ามีกองกำลังพวกแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียหนุนหลังอยู่ประมาณ 15,000 คน ในเขตโดเน็ตสก์ และเขตลูฮันสก์ ซึ่งอาจช่วยเหลือการบุกของทหารรัสเซีย ขณะที่ทางการยูเครนเชื่อว่าตัวเลขจริงๆ จะสูงกว่านี้อีก

เคลื่อนทัพบุกโจมตีจากด้านใต้

ทางด้านใต้ กองทหารรัสเซียข้ามจากแหลมไครเมียเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ มุ่งหน้าสู่เมืองเคร์สัน โดยเข้ายึดเมืองชอนการ์ และเมืองโนโว อเลกเซเยฟกา เอาไว้

มีรายงานว่า มีผู้ได้ยินเสียงระเบิดตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วทั้งอาณาบริเวณนี้ เช่น โอเดซา มาริโพล เมลิตโพล และเคร์สัน

ในวันพฤหัสบดี (24) สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงพวกเจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า กองทหารรัสเซียได้ยกพลขึ้นบกที่ท่าเรือของเมืองโอเดซา และเมืองมาริโพล

ช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ รัสเซียได้นำพวกเรือยกพลขึ้นบกที่สามารถลำเลียงรถถังที่เป็นกำลังสู้รบหลักในสมรภูมิ ยานยนต์หุ้มเกราะ และกำลังพลมาปักหลักอยู่นอกชายฝั่งยูเครน ในจุดชุมนุมพลสำคัญในทะเลดำและทะเลอาซอฟ

กองกำลังอาวุธของยูเครนนั้นรวมศูนย์กำลังกันอยู่ในภาคตะวันออกของยูเครน โดยมุ่งไปที่โดเน็ตสก์ และลูฮันสก์

เบน แบร์รี แห่งสถาบันระหว่างประเทศเพื่อยุทธศาสตร์ศึกษา (IISS) ให้ความเห็นว่า การที่รัสเซียยกกำลังจากไครเมียบุกขึ้นเหนือ ทำให้พวกเขาอาจประสบความสำเร็จในการตัดกองกำลังยูเครนให้ขาดจากกรุงเคียฟ ทำให้กองกำลังยูเครนเหล่านี้เคว้างคว้างอยู่ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำดนีเปอร์

ด้วยกำลังทหารของรัสเซียที่อยู่ทางด้านตะวันออก นั่นคือที่โดเน็ตสก์ และลูฮันสก์ กำลังที่อยู่ทางตอนเหนือ นั่นคือในรัสเซีย และกำลังที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนีเปอร์ หมายความว่ากองกำลังอาวุธของยูเครน กำลังถูกล้อมเอาไว้

(ที่มา : บีบีซี)