ราคาน้ำมันในวันพุธ (23 ก.พ.) ขยับลงเล็กน้อย หลังชัดเจนว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดแรกของสหรัฐฯ และยุโรปไม่ครอบคลุมถึงภาคพลังงาน อย่างไรก็ตามความตึงเครียดในวิกฤตยูเครนยังฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบแรง และทองคำดีดขึ้นต่อเนื่อง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่ 92.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 94.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันขึ้นแรงเมื่อวันอังคาร (22 ก.พ.) ท่ามกลางควาามกังวลว่ามาตรการคว่ำบาตรที่ตะวันตกกำหนดเล่นงานรัสเซีย ตอบโต้กรณีที่มอสโกส่งทหารเข้าไปยัง 2 เขตแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงาน
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ชี้แจงอย่างชัดเจนว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกภาคพลังงาน ปัจจัยนี้ฉุดให้ราคาน้ำมันปรับลงเล็กน้อย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (23 ก.พ.) ปิดลบแรง หลังยูเครนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและตะวันตกเปิดตัวมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ตอบโต้กรณีส่งทหารเข้าไปยัง 2 เขตแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน
ดาวโจนส์ ลดลง 464.85 จุด (1.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,131.76 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 79.26 จุด (1.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,225.50 จุด แนสแดค ลดลง 344.03 จุด (2.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,037.49 จุด
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าการรุกรานยูเครนของรัสเซียยังคงอาจเกิดขึ้นในทุกขณะ พร้อมบอกว่าวอชิงตันยังไม่เห็นสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่ารัสเซียกำลังถอยหลังกลับ
ในความเป็นไปได้ของการโจมตีทางทหารของรัสเซีย มอสโกได้เริ่มอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตในกรุงเคียฟ ในขณะที่เหตุโจมตีไซเบอร์ต่อเว็บไซต์ต่างๆ ของภาครัฐยูเครน ซ้ำเติมความกังวลแก่นักลงทุนเช่นกัน
ความวิตกต่อสถานการณ์ความตึงเครียดเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนที่ลุกลามบานปลาย กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันพุธ (23 ก.พ.) แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,910.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)