ราคาน้ำมันปิดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 และทองคำขยับเหนือ 1,900 ดอลลาร์ในวันอังคาร (22 ก.พ.) ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนลุกลาม หลังมอสโกสั่งทหารเข้าไปยัง 2 เขตที่แยกตัวทางภาคตะวันออกของยูเครน ปัจจัยนี้ฉุดวอลล์สตรีทปิดลบ ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ แถลงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดแรก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันดิบทั้ง 2 สัญญาปิดสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรปเตรียมแถลงคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน รับรอง 2 เขตที่แยกตัวจากยูเครนให้มีฐานะเป็นรัฐเอกราช พร้อมส่งกองทัพเข้าไปภายใต้ข้ออ้างรักษาสันติภาพ โหมกระพือวิกฤตด้านความมั่นคงในทวีปยุโรป
ความกังวลต่อสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลาย กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันอังคาร (22 ก.พ.) ดีดตัวขึ้นเหนือ 1,900 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 7.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,907.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (22 ก.พ.) ช่วงหนึ่งขยับลงแรง นักลงทุนกังวลต่อพัฒนาการของวิฤตยูเครน-รัสเซีย แต่ฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย หลังประธานาธิบดีไบเดน แถลงมาตรการคว่ำบาตรชุดแรกที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย
ดาวโจนส์ ลดลง 482.57 จุด (1.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,596.61 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 44.11 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,304.76 จุด แนสแดค ลดลง 166.55 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,381.52 จุด
ในมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ นั้น ไบเดน กล่าวว่า จะเล็งเป้าหมายเล่นงานภาคสถาบันการเงินและหนี้สาธารณะของรัสเซีย
กระนั้นแม้ไบเดน ได้แถลงคว่ำบาตรรัสเซีย แต่ขณะเดียวกันเขาแสดงความหวังการเจรจาจะยังคงมีอยู่ พร้อมระบุสหรัฐฯ ไม่มีเจตนาสู้รบกับรัสเซีย
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ระบุพันธมิตรแห่งนี้ยังเชื่อว่ารัสเซียยังคงมีแผนจู่โจมครั้งใหญ่รุกรานยูเครน หลังมอสโกเพิ่งรับรองเอกราชของ 2 เขตแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน
สหราชอาณาจักรเปิดเผยรายการที่จะอยู่ในมาตรการคว่ำบาตร และเยอรมนีระงับโครงการล่อลำเลียงแก๊สทะเลบอลติก "นอร์ดสตรีม 2" ซึ่งจะช่วยให้การส่งก๊าซจากรัสเซียมายังยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างมาก
(ที่มา : รอยเตอร์/เอพี)
