เค้ารางแห่งความขัดแย้งทางภาคตะวันออกของยูเครนคืบคลานเข้ามาใกล้ทุกขณะ ล่าสุด “ปูติน” ลงนามในกฤษฎีการับรอง 2 เขตทางตะวันออกของยูเครนที่แยกตัวออกจากกรุงเคียฟ มีฐานะเป็นรัฐอิสระ พร้อมกับสั่งให้ทหารเข้าไปประจำการใน 2 เขตดังกล่าว
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นโดยไม่สนใจคำเตือนของฝ่ายตะวันตก ว่า การดำเนินการดังกล่าวผิดกฎหมายและจะทำลายการเจรจาสันติภาพที่กำลังดำเนินอยู่ และเกิดขึ้นในหลังจากรัสเซียระดมกำลังทหารมากกว่า 100,000 นาย ตามแนวชายแดนติดกับยูเครน
วอชิงตันและพันธมิตรเตือนว่ารัสเซียอาจเปิดฉากรุกรานยูเครนได้ทุกเวลา แม้รัสเซียปฏิเสธมาตลอด
ด้วยที่นาโต้แสดงจุดยืนไม่มีแผนส่งทหารเข้าไปยังยูเครน ดังนั้น จึงชัดเจนว่าเคียฟอาจจำเป็นต้องรับมือกับกองกำลังของรัสเซียด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่ในกรณีที่สงครามปะทุขึ้น และต่อไปนี้คือข้อมูลเปรียบเทียบสรรพกำลังระหว่าง 2 ฝ่าย
รัสเซีย VS ยูเครน
รัสเซียมีแสนยานุภาพทางทหารเหนือกว่ายูเครนมากมายหลายเท่า ครอบคลุมทั้งทางบก อากาศ และทางทะเล ปัจจุบันรัสเซียมีทหารกองประจำการทั่วทุกเหล่าทัพ 900,000 นาย ผิดกับยูเครนที่มีเพียง 196,000 นาย
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความเหนือกว่าด้านการทหาร ที่มีบ่อเกิดจากงบประมาณกลาโหมมหาศาลของรัสเซีย เมื่อเทียบกับงบประมาณกลาโหมอันแคระแกร็นของยูเครน
กองทัพเรือ
ช่องว่างด้านแสนยานุภาพด้านการทหารนั้น แตกต่างกันอย่างมากเฉพาะอย่างยิ่งในทางทะเล โดยรัสเซียมีบุคลากรกองทัพเรือมากกว่ายูเครนถึง 10 เท่า 150,000 นายกับ 15,000 นาย ในขณะเดียวกัน กองทัพเรือรัสเซียมีเรือรบในประจำการ 74 ลำ และเรือดำน้ำ 51 ลำ ผิดกับยูเครนที่มีเรือรบเพียง 2 ลำ และไม่มีเรือดำน้ำในประจำการแม้แต่ลำเดียว
กองทัพบก
ในด้านแสนยานุภาพทางบกนั้น ดูเหมือนทั้ง 2 ฝ่ายจะมีความแตกต่างด้านกำลังพลไม่เท่ากองทัพเรือ โดยกองทัพบกรัสเซียมีทหาร 280,000 นาย ส่วนยูเครนมี 125,600 นาย ในขณะที่ยูเครนยังมีกำลังพลสำรองอีก 900,000 คน ที่ผ่านการฝึกฝนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนรัสเซียมีกำลังพลสำรอง 2 ล้านคน
แม้อัตราส่วนของกำลังพลนั้นจะอยู่ที่แค่ 2.2 ต่อ 1 นาย แต่อีกด้านหนึ่งรัสเซียอยู่ในสถานะที่เหนือกว่ามากหากพูดถึงในเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ รัสเซียมีจำนวนปืนใหญ่ รถถังและยานยนต์หุ้มเกราะมากกว่ายูเครน 3 เท่า 6 เท่า และเกือบ 7 เท่าตามลำดับ
รัสเซียมีรถถัง 13,367 คัน ปืนใหญ่ 5,934 กระบอก และยานยนต์สู้รบหุ้มเกราะ 19,783 คัน ผิดกับยูเครนที่มีรถถังเพียง 2,119 คัน ปืนใหญ่ 1,962 กระบอก และยานยนต์สู้รบหุ้มเกราะ 2,870 คัน
กองทัพอากาศ
ความต่างดังกล่าวเกิดขึ้นแบบเดียวกันในแง่ของแสนยานุภาพทางอากาศ ด้วยรัสเซียมีจำนวนเฮลิคอปเตอร์และอากาศยานโจมตีมากกว่ายูเครนถึง 10 เท่า
กองทัพอากาศรัสเซียมีกำลังพล 165,000 นาย ส่วนยูเครนมี 35,000 นาย รัสเซียมีอากาศยานโจมตี จำนวน 1,328 ลำ ส่วนยูเครนมี 146 ลำ ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์โจมตีนั้น รัสเซียมี 478 ลำ แต่ยูเครนมีเพียง 42 ลำ
ยูเครนมีเครื่องยิงขีปนาวุธจากพื้นผิวสู่อากาศที่สามารถเล็งเป้าเล่นงานอากาศยานจำนวน 400 เครื่อง แต่ยังคงน้อยกว่าจำนวนที่ทางฝั่งรัสเซียมีในครอบครองถึง 10 เท่า นอกจากนี้ รัสเซียยังมีความก้าวหน้าอย่างมากในด้านอาวุธพิสัยไกล พวกเขาครอบครองเครื่องยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัวยิงจากภาคพื้นมากกว่า 500 เครื่อง
นักวิเคราะห์บางส่วนคิดว่าการโจมตีใดๆ ของรัสเซียคงจะพึ่งการโจมตีด้วยอาวุธพิสัยไกลเป็นหลัก อย่างเช่นขีปนาวุธร่อน โดยจะเล็งเป้าหมายถล่มฐานที่ตั้งสำคัญๆ ของยูเครนจากระยะไกล
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศสมาชิกนาโต้หลายชาติได้จัดหาส่งมอบความช่วยเหลือทางอาวุธเพิ่มเติมแก่ยูเครน ในนั้นรวมถึงอาวุธต่อต้านรถถังจากสหราชอาณาจักร แต่มันจะเพียงพอสำหรับต้านทานพลานุภาพของรัสเซียหรือไม่ นั่นคือคำถามตัวโต
(ที่มา : สกายนิวส์/mgronline)