ปัจจุบันรัสเซียมีกำลังการสู้รบอยู่ที่ 70% จากระดับที่จำเป็นสำหรับยกทัพรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ และเวลานี้มอสโกกำลังส่งกลุ่มกองพันโจมตีด้วยยุทธวิธีเข้าประจำการตามแนวชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติม จากคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 คนในวันเสาร์ (5 ก.พ.) พร้อมคาดคะเนว่าหากพญาหมีขาวยกพลยุกกรุงเคียฟ เมืองหลวงแห่งนี้จะถึงคราวล่มสลายภายในเวลาเพียง 2 วัน
ช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด รัสเซียได้มีการเพิ่มเติมกลุ่มกองพันโจมตีด้วยยุทธวิธี (Russian battalion tactical group) ในภูมิภาคตามแนวชายแดน จาก 60 กองพัน เป็น 83 กองพัน จนถึงวันศุกร์ (4 ก.พ.) และอีก 14 กองพันอยู่ระหว่างลำเลียงพล เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกกับรอยเตอร์โดยไม่ประสงค์เอ่ยนามเนื่องจากเป็นข้อมูลที่อ่อนไหว
เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าสถานการณ์ภาคสนามจะถึงจุดพีกสุดราวๆ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เมื่อพิจารณาจากการลำเลียงกำลังพลผ่านยานยนต์ออฟโรดของกองทัพรัสเซีย และสถานการณ์ต่างๆ จะเป็นไปเช่นนี้จนถึงช่วงสิ้นเดือนมีนาคม
จังหวะเวลาดังกล่าว ประกอบกับจำนวนกำลังพลที่เพิ่มขึ้นและแสนยานุภาพที่เพิ่มสูงขึ้นของกองกำลังรัสเซียที่อยู่ใกล้ชายแดนยูเครน อาจบ่งชี้ว่าประตูแห่งการเจรจาทางการทูตกำลังปิดตัวลง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทั้ง 2 คน ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ สนับสนุนคำประเมินของพวกเขาที่มีต่อกองกำลังของรัสเซีย
แม้รัสเซียระดมกำลังทหารมากกว่า 100,000 นายใกล้แนวชายแดน แต่พวกเขายืนยันไม่มีแผนรุกรานยูเครน โดยเพียงแต่ว่าบอกว่าอาจใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างไม่เจาะจง หากว่าข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของพวกเขาไม่ได้รับการตอบสนอง ในนั้นรวมถึงคำสัญญาว่านาโต้จะไม่รับยูเครนเป็นสมาชิกไปตลอดกาล ข้อเรียกร้องที่ทางวอชิงตัน และนาโต้ระบุว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
วอชิงตันเชื่อว่ารัสเซียอาจเลือกทางเลือกอื่นๆ แทนการรุกรานเต็มรูปแบบ ในนั้นรวมถึงจู่โจมแบบจำกัด และไม่เชื่อว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายไปแล้ว เจ้าหน้าที่ระบุ
กระนั้นก็ตามเจ้าหน้าที่ทั้งสองบอกว่า ปูตินกำลังจัดวางกองกำลังที่สามารถดำเนินการได้ในทุกกรณี
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้ความเห็นด้วยว่าหากรัสเซียรุกรานกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนจะถึงคราวล่มสลายภายในเวลาเพียง 2 วัน ส่วนอีกคนเสริมว่าการรุกรานเต็มรูปแบบจะก่อความสูญเสียครั้งใหญ่
จากการประมาณการของสหรัฐฯ ยูเครนอาจสูญเสียกำลังทหาร 5,000 ถึง 25,000 นาย ส่วนความสูญเสียของทหารรัสเซียจะอยู่ระหว่าง 3,000 ถึง 10,000 นาย ขณะที่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับพลเมือง จะอยู่ราวๆ 25,000 ถึง 50,000 คน เจ้าหน้าที่ระบุ
นอกจากนี้ วอชิงตันยังเชื่อว่าการรุกรานเต็มรูปแบบจะก่อระลอกคลื่นผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในยุโรปหลายล้านคน
(ที่มา : รอยเตอร์)