“ปูติน” ลงนามในกฤษฎีการับรอง 2 เขตทางตะวันออกของยูเครนที่แยกตัวออกจากกรุงเคียฟ ว่ามีฐานะเป็นรัฐอิสระ ไม่สนใจคำเตือนของฝ่ายตะวันตกว่า การดำเนินการดังกล่าวผิดกฎหมายและจะทำลายการเจรจาสันติภาพที่กำลังดำเนินอยู่ ตลอดจนคำข่มขู่ที่ว่ารัสเซียจะถูกแซงก์ชันอย่างหนัก
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ลงนามในเอกสารเหล่านี้ หลังจากกล่าวปราศรัยที่มีการถ่ายทอดทีวีอยู่เกือบชั่วโมงเมื่อคืนวันจันทร์ (21 ก.พ.) โดยมีเนื้อหาโจมตียูเครนอย่างรุนแรง ทั้งในเรื่องที่พวกนีโอนาซีกำลังเรืองอำนาจ กลุ่มแก๊งคณาธิปไตยผูกขาดเศรษฐกิจการเมืองกำลังแพร่กระจายไปทั่ว และยังเรียกยูเครนว่า เป็นอาณานิคมของสหรัฐฯ ที่มีระบอบปกครองหุ่นเชิด
ประมุขเครมลินร่ายต่อว่า ยูเครนเป็นประเทศที่ไม่มีประเพณีแห่งการเป็นรัฐอิสระ และจริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่ถูกประดิษฐ์สร้างขึ้นมาโดย วลาดิมีร์ เลนิน ผู้ก่อตั้งรัฐโซเวียต ซึ่งเป็นทัศนะที่ปูตินเคยกล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้ และถูกทางการเคียฟตอบโต้ว่า เป็นมุมมองประวัติศาสตร์แบบมุ่งหาประโยชน์เข้าข้างตัวเอง
ปูตินยังบอกอีกว่า นับจากสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991 เคียฟเอารัดเอาเปรียบรัสเซียและมุ่งแบล็กเมล์ทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
แล้วมาถึงตอนนี้ ยูเครนยังแสดงความมุ่งมาดปรารถนาที่จะเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) จึงถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของรัสเซีย
เหมือนจะเป็นการตอบโต้สหรัฐฯ และฝ่ายตะวันตกที่พยายามแก้ต่างว่า นาโต้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามรัสเซียเลย ปูตินบอกว่า “ในเอกสารต่างๆ ของนาโต้ ประเทศของเราถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่า เป็นภัยคุกคามหลักต่อความมั่นคงของแอตแลนติกเหนือ และดังนั้นในตอนนี้ ยูเครนก็จะเป็นเสมือนกระดานสปริงสำหรับการดีดตัวเข้าโจมตี” รัสเซีย
ผู้นำรัสเซียยังกล่าวว่า ไม่สะทกสะท้านต่อการขู่ของฝ่ายตะวันตกที่ว่าจะแซงก์ชันหากรัสเซียก้าวร้าวรุกรานใส่ยูเครน
“พวกเขากำลังพยายามที่จะแบล็กเมล์เราอีกครั้งหนึ่ง พวกเขากำลังข่มขู่เราอีกครั้งหนึ่งด้วยมาตรการแซงก์ชัน ซึ่งถึงอย่างไร ผมคิดว่าพวกเขาก็จะนำออกมาใช้อยู่ดี ในขณะที่อธิปไตยของรัสเซียมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และพลังอำนาจของกองทัพรัสเซียเติบโตขยายตัว โดยที่ข้อกล่างอ้างสำหรับการแซงก์ชันอีกครั้งหนึ่งนั้นจะถูกขุดค้นออกมาหรือถูกสร้างขึ้นมาอยู่เสมอแหละ”
เขาประกาศว่า รัสเซีย “มีสิทธิทุกๆ ประการที่จะดำเนินมาตรการตอบโต้ เพื่อรับประกันความมั่นคงของเราเอง นี่แหละคือสิ่งที่เราจะทำอย่างแน่วแน่”
การรับรอง 2 เขตทางตะวันออกที่แยกตัวจากยูเครนว่าเป็นรัฐเอกราชเช่นนี้ เท่ากับเป็นการประกาศว่า 2 เขตดังกล่าวไม่ใช่ส่วนหนึ่งของยูเครนอีกต่อไป และเป็นการปูทางให้มอสโกสามารถส่งทหารเข้าไปอย่างเปิดเผย โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องพันธมิตรของตนจากการโจมตีของเคียฟ
ปูตินบอกว่า การดำเนินการเช่นนี้เป็นการตอบโต้ที่ควรจะทำกันตั้งแต่ก่อนหน้านี้นานแล้ว เพื่อเล่นงาน “พวกซึ่งเดินไปในเส้นทางแห่งการใช้ความรุนแรง การนองเลือด การละเลยกฎหมาย และไม่ยอมรับวิธีการอื่นๆ สำหรับการแก้ประเด็นปัญหาดอนบาสส์ นอกเหนือจากการใช้กำลังทหาร ทั้งนี้ ดอนบาสส์หมายถึงดินแดนภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน โดยที่ 2 เขตซึ่งประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากเคียฟก็เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนนี้
เขาเรียกร้องให้ยูเครนยุติความเป็นปฏิปักษ์ทั้งหลายในทันที
“มิฉะนั้นแล้ว ความรับผิดชอบทั้งหมดสำหรับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการนองเลือดต่อไปอีก ก็จะตกอยู่กับความสำนึกของระบอบปกครองที่กำลังปกครองดินแดนยูเครนอยู่ในเวลานี้อย่างสิ้นเชิง” เขากล่าว
ในทันทีหลังจบการปราศรัย สถานีทีวีของทางการรัสเซียได้เผยแพร่ภาพ ปูติน ลงนามในเอกสารรับรองฐานะการเป็นรัฐเอกราชของเขตโดเน็ตสก์และเขตลูฮันสก์ ในพิธีการที่จัดขึ้นสั้นๆ ที่ทำเนียบวังเครมลิน โดยมีผู้นำของทั้ง 2 เขตนี้เข้าร่วมด้วย
(ที่มา : รอยเตอร์, เอพี, เอเจนซีส์)