ราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (24 ก.พ.) ช่วงหนึ่งของการซื้อขาย สัญญาเบรนต์ปรับขึ้นเหนือ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 หลังรัสเซียโจมตียูเครน ก่อความกังวลอุปทานพลังงานโลกปั่นป่วน ก่อนแกว่งตัวลงปิดบวกเพียงเล็กน้อย ส่วนวอลล์สตรีทผันผวนเช่นกัน และทองคำแตะระดับสูงสุดรอบ 17 เดือน นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ
ในช่วงท้ายของการซื้อขาย ตลาดน้ำมันแกว่งตัวลง หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่าสหรัฐฯ ปล่อยน้ำมันจากคลังปิโตรเลียมสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ออกมาเพิ่มเติม
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ ปิดที่ 92.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ ทั้งทางบก อากาศ และทางทะเล ในปฏิบัติการโจมตีต่อรัฐหนึ่งในยุโรป ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดตัวมาตรการคว่ำบาตรอันหนักหน่วงเล่นงานรัสเซีย กำหนดมาตรการขัดขวางศักยภาพการทำธุรกรรมของพวกเขาในระบบการเงินโลก เช่นเดียวกับมาตรการเล่นงานภาคสถาบันการเงินและบริษัทต่างๆ ที่มีรัฐเป็นเจ้าของ
สหราชอาณาจักรแถลงมาตรการใหม่เล็งเป้าหมายเล่นงานภาคธนาคาร สมาชิกคนใกล้ชิดของปูติน และพวกบุคคลร่ำรวยที่มีชีวิตสุขสบายในลอนดอน ในขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน บอกว่าตะวันตกควรต้องเลิกพึ่งพิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย
ความกังวลต่อปฏิบัติการโจมตียูเครนของรัสเซีย กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (24 ก.พ.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 15.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,926.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวปิดบวกในช่วงท้ายการซื้อขายในวันพฤหัสบดี (24 ก.พ.) ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยีที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แม้ประธานาธิบดีไบเดน เปิดตัวมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่อันหนักหน่วงเล่นงานรัสเซีย หลังมอสโกรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 92.07 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 33,223.83 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 63.20 จุด (1.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,288.70 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 436.10 จุด (3.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,473.58 จุด
"จุดยืนหนักแน่นที่สหรัฐฯ และยุโรปเลือกใช้ กำลังส่งสารเสียงดังไปยังตลาดการเงินว่าพวกเขากำลังพยายามฉีกเศรษฐกิจรัสเซียมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" ปีเตอร์ คาร์ดิลโล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านการตลาดของสถาบันสปาร์ตัน แคปิตอล ซิเคียวริตี ในนิวยอร์กกล่าว
คาร์ดิลโก กล่าวเตือนว่าแรงเทขายในตลาดอาจยังไม่จบ "มองไปข้างหน้า มีความเป็นไปได้ที่เรายังคงต้องเผชิญราคาน้ำมันที่สูงลิ่ว หรือบางทีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น"
(ที่มา : รอยเตอร์)
