หลายชาติเอเชียเผชิญจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 พุ่งพรวด ภายหลังเทศกาลวันหยุดปีใหม่ทางจันทรคติซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมเฉลิมฉลองเป็นจำนวนมาก ขณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเร่งรับมือตัวกลายพันธุ์ “โอมิครอน” พร้อมคาดหมายว่าเคสผู้ป่วยยังจะพุ่งทะยานขึ้นอีกในช่วงหลายสัปดาห์ต่อจากนี้
วันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในฐานะวันตรุษจีน แต่ความจริงแล้วมีอีกหลายชาติเอเชียจัดการเฉลิมฉลองเช่นกันเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถึงแม้หลายประเทศยังคงบังคับใช้มาตรการจำกัดเข้มงวดต่างๆ เพื่อทำให้จำนวนผู้คนที่ร่วมทำกิจกรรมตลอดจนการออกไปฉลองนอกบ้านอยู่ในระดับต่ำสุด
ที่ฮ่องกง ทางการที่นั่นกำลังเผชิญเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นทำสถิติ ซึ่งสร้างรอยด่างให้แก่นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ที่ฮ่องกงใช้อย่างเคร่งครัดตามรอยจีน โดยที่ในวันจันทร์ (7 ก.พ.) เขตบริหารพิเศษของจีนแห่งนี้รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นรายใหม่ 614 ราย กลายเป็นสถิติสูงสุดใหม่ซึ่งพุ่งพรวดเกือบเท่าตัวจากระดับ 342 รายในวันอาทิตย์ (6) และ 351 รายในวันเสาร์ (5)
เวลานี้ฮ่องกงยังกำหนดให้เคสผู้ป่วยทั้งหมดต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ในวันจันทร์ (7) ทางการประกาศว่าผู้สัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลที่ติดเชื้อจะได้รับอนุญาตให้กักตัวเองที่บ้านเริ่มตั้งแต่วันอังคาร (8) และต่อเมื่อผู้ใดผลตรวจออกมาเป็นบวกขณะกักตัวอยู่ที่บ้าน จึงจะถูกโยกย้ายมายังโรงพยาบาล
ทางด้านสิงคโปร์ ปรากฏว่ายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังเทศกาลหยุดยาววันตรุษเช่นกัน เฉพาะวันศุกร์ (4) พบเคสใหม่เพิ่มขึ้นมา 3 เท่าตัวเป็น 13,000 คน อย่างไรก็ดี ต่อจากนั้นจำนวนได้ลดลงไป โดยเมื่อวันอาทิตย์ (6) อยู่ที่ 7,752 คน ท่ามกลางการใช้มาตรการจำกัดต่างๆ เช่น การจำกัดจำนวนลูกค้าในร้านอาหารกลุ่มละไม่เกิน 5 คน และจำกัดจำนวนแขกที่ไปเยี่ยมครอบครัว
เดือนที่ผ่านมา สิงคโปร์รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 100,000 คน แม้กว่า 99% มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการก็ตาม
รัฐบาลทั่วเอเชียกำลังเผชิญการระบาดรูปแบบเดียวกันนี้ สืบเนื่องจากสายพันธุ์ตัวกลายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่เชื้อง่ายขึ้น กำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาด
เป็นต้นว่าที่ญี่ปุ่น ซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 90,000 คนเมื่อวันอาทิตย์ รวมถึง 17,526 คนในโตเกียว โดยยังไม่มีสัญญาณว่า การระบาดของโอมิครอนจะชะลอลง
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ขณะนี้โควิดกำลังระบาดไปยังกลุ่มผู้สูงวัยที่มีความเสี่ยงและทำให้ผู้ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลมีจำนวนมากขึ้น ทั้งนี้ มีประชากรไม่ถึง 5% ในญี่ปุ่นที่ได้รับวัคซีนเข็มสาม
ด้านอินโดนีเซีย ก็เผชิญการระบาดในท้องถิ่นรุนแรงเช่นเดียวกัน โดยที่เมื่อ 1 เดือนก่อน คือ 6 มกราคมนั้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 533 คน และเสียชีวิต 7 คน แต่หนึ่งเดือนต่อมาตัวเลขเคสใหม่พุ่งขึ้นเป็น 36,057 คนเมื่อวันอาทิตย์(6) และเสียชีวิต 57 คน ตัวเลขนี้เท่ากับเกือบ 4 เท่าตัวของสถิติในสัปดาห์ก่อนหน้า
สำหรับที่มาเลเซีย กระทรวงสาธารณสุขรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,034 คน โดยตัวเลขเริ่มเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลตรุษจีนซึ่งชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนจำนวนมากออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ อย่างไรก็ดี ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นูร์ ฮิชาม อับดุลเลาะห์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของมาเลเซีย เตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอาจเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวภายในสิ้นเดือนมีนาคม และเรียกร้องให้ประชาชนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยขณะนี้มีประชากรราว 98% ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว และครึ่งหนึ่งได้รับวัคซีนเข็มสาม
ที่เกาหลีใต้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันอาจพุ่งขึ้นเป็น 130,000 คน จนถึง 170,000 คนภายในปลายเดือนนี้ โดยล่าสุดมีการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 38,691 คน เพิ่มขึ้น 9 เท่าตัวจากช่วงกลางเดือนมกราคมที่โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในการระบาดในประเทศ
เวียดนามเตือนเช่นเดียวกันว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นหลังตรุษจีน
เดือนที่ผ่านมา ประเทศนี้พบผู้ติดโอมิครอน 192 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย ขณะที่อัตราการเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตต่ำ โดยก่อนหน้านั้นเวียดนามอนุญาตให้ประชาชนทำกิจกรรมทางสังคมได้เกือบทั้งหมดอีกครั้ง
ด้านฟิลิปปินส์เริ่มขยับผ่อนคลายข้อจำกัดสกัดโควิดเช่นเดียวกัน และเปิดรับนักท่องเที่ยวขณะที่จำนวนเคสใหม่ลดลงอยู่ที่ 8,300 คนเมื่อวันอาทิตย์ จาก 39,000 คนในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดกลางเดือนมกราคม
กระนั้น ฟิลิปปินส์ยังคงบังคับใช้ข้อจำกัดการเว้นระยะห่างทางสังคมเนื่องจากกังวลว่า การระบาดจะลุกลามก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาในวันที่ 9 พฤษภาคม โดยนับจากวันอังคาร (8) จะมีการห้ามผู้ร่วมกิจกรรมหาเสียงจับมือ สวมกอด และจูบ และห้ามการชุมนุมคนจำนวนมาก
ในส่วนของจีน ยอดผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นรายใหม่ยังผันผวน โดยลดลงเหลือ 9 คนเมื่อวันศุกร์ก่อนดีดขึ้นเป็น 45 คนในวันจันทร์ ส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลกว่างซี และมีผู้ติดเชื้อโอมิครอนรวมอยู่ด้วย กระนั้น สถานการณ์การระบาดได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด ด้วยการล็อกดาวน์และตรวจโควิดประชาชนจำนวนมากในเมืองต่างๆ ขณะที่ปักกิ่งเปิดม่านเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว
(ที่มา: เอพี, รอยเตอร์)