xs
xsm
sm
md
lg

EXPLAINER : ไขข้อข้องใจทำไมยังต้องระวัง ‘โอมิครอน’ ทั้งๆ ที่พูดกันว่าเป็นตัวกลายพันธุ์ที่ความร้ายแรงลดลงเยอะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักวิจัยไขข้อสงสัย แจงแม้โอมิครอนทำให้ผู้ติดเชื้อจำนวนมากมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่มีเหตุผลมากมายที่ยังต้องระวังตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวนี้ เช่น ยังมีความเสี่ยงที่ทำให้ป่วยหนักได้โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ผลระยะยาวที่ยังไม่มีใครรู้ และการปล่อยให้ระบาดมากๆ อาจเพิ่มโอกาสที่โอมิครอนจะกลายพันธุ์ต่อไปอีก

มีโอกาสป่วยหนัก

นักวิจัยระบุว่า โอมิครอนอาจมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ ขณะที่สำหรับผู้มีอาการ มีโอกาสสูงที่จะเป็นแค่เจ็บคอหรือมีน้ำมูก แต่ไม่มีปัญหาการหายใจเหมือนสายพันธุ์ก่อนหน้า

กระนั้น การระบาดอย่างรวดเร็วของโอมิครอนในหลายประเทศเท่ากับว่า เมื่อมีผู้ติดเชื้อถึงจำนวนหนึ่ง อาจมีผู้มีอาการรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลล่าสุดจากอิตาลีและเยอรมนีแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แผนกผู้ป่วยวิกฤต และกระทั่งเสียชีวิต

ไมเคิล นัสเซนซ์วิก ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสจากมหาวิทยาลัยร็อกกี้เฟลเลอร์ บอกว่า จริงอยู่ที่ไม่ช้าก็เร็วทุกคนต้องติดโอมิครอน แต่ติดทีหลังดีกว่าตรงที่มียาพร้อมรักษาเพิ่มขึ้นและวัคซีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เสี่ยงแพร่เชื้อให้คนอื่น

อากิโกะ อิวาซากิ จากมหาวิทยาลัยเยลที่ศึกษาด้านภูมิคุ้มกันวิทยา อธิบายว่า แม้ตัวเองมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ผู้ติดโอมิครอนอาจนำเชื้อไปติดคนอื่นที่มีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง ถึงแม้มีภูมิต้านทานจากการติดเชื้อครั้งก่อนก็ตาม

ผลระยะยาวจากโอมิครอนที่ยังไม่รับรู้

การติดโควิดจากตัวกลายพันธุ์ก่อนหน้า ซึ่งรวมถึงกรณีที่มีอาการเล็กน้อย และการติดเชื้อแม้ฉีดวัคซีนแล้ว บางครั้งอาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “Long Covid” ที่ร่างกายจะยังคงอ่อนแอเป็นเวลานาน

อิวาซากิ เสริมว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า มีผู้ติดโอมิครอนมากน้อยเพียงใดที่มีภาวะดังกล่าว ดังนั้น คนที่ประเมินโอมิครอนต่ำเกินจริงจึงกำลังพาตัวเองไปเสี่ยงกับโรคที่ทำให้เกิดการอ่อนเพลียที่อาจนานเป็นเดือนหรือเป็นปี

นอกจากนั้น ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ว่า โอมิครอนจะทำให้เกิดผลแอบแฝงที่เคยเกิดขึ้นในตัวกลายพันธุ์ก่อนหน้าหรือไม่ เช่น ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ความบกพร่องของอสุจิ และการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน

ยาขาดแคลน

ยารักษาโอมิครอนยังมีจำกัด ทำให้แพทย์ต้องปันส่วนให้ผู้ป่วย นอกจากนี้ ยากลุ่มแอนติบอดี 2 ใน 3 ที่ใช้ในช่วงการระบาดหลายระลอกยังใช้ไม่ได้ผลกับโอมิครอน ขณะที่ยาตัวที่ 3 คือ โซโทรวิแมบ จากแกล็กโซสมิธไคลน์ กำลังขาดแคลนเช่นเดียวกับยาเม็ดตัวใหม่ แพกซ์โลวิด จากไฟเซอร์ที่ดูเหมือนมีประสิทธิภาพกับโอมิครอน ดังนั้น ถ้าติดโอมิครอนตอนนี้คุณอาจไม่สามารถเข้าถึงการรักษา

คนป่วยล้นโรงพยาบาล

เดวิด โฮ ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยาของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ระบุว่า ในผู้ที่ฉีดวัคซีนครบและฉีดกระตุ้นแล้วที่ไม่มีโรคประจำตัว โอมิครอนจะไม่สร้างความเสียหายมากนัก แต่ทางที่ดีคือ มีจำนวนผู้ติดเชื้อไม่มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ที่โรงพยาบาลหลายแห่งในหลายประเทศรองรับไม่ไหวแล้ว

จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งทำสถิติ ทำให้โรงพยาบาลต่างๆ ต้องเลื่อนการผ่าตัดและการรักษามะเร็งที่ไม่ใช่กรณีฉุกเฉิน และในช่วงที่โควิดระบาดระลอกที่แล้วๆ มา โรงพยาบาลที่ผู้ป่วยล้นไม่สามารถรักษาเคสฉุกเฉินอื่นๆ เช่น หัวใจวาย ได้อย่างเหมาะสม

ติดเชื้อมาก-โอกาสกลายพันธุ์ยิ่งสูง

โอมิครอนถือเป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์หลักสายพันธุ์ที่ 5 ซึ่งยังต้องจับตาว่า จะมีความสามารถในการกลายพันธุ์ลดลงหรือไม่

อย่างไรก็ดี โฮ เตือนว่า อัตราการติดเชื้อสูงทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่ไวรัสจะกลายพันธุ์ และไม่สามารถรับประกันได้ว่า ไวรัสตัวกลายพันธุ์ใหม่จะทำให้เกิดอาการน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า และย้ำว่า ไวรัสโคโรนาสร้างความประหลาดใจในหลากหลายรูปแบบตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

(ที่มา : รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น