รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กเตือนอย่าหลงเชื่อกับการหวังจะได้ประโยชน์จากการติดเชื้อ และจะได้ภูมิคุ้มกันหมู่ การติดเชื้อมีโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ ห่วงสถานการณ์หลังปีใหม่จะเป็นช่วงอัตราเร่งของการระบาด
วันนี้ (5 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" ของ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความอัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก ที่มีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 295 ล้านรายจำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 88.16 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 89.57
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 54.29 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 52.31 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 5 ใน 10 อันดับแรก และ 12 ใน 20 อันดับแรกของโลก
นอกจากนี้ "หมอธีระ" ยังได้ระบุข้อความเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ "โอมิครอน" ในประเทศไทยอีกว่า จำนวนเคส Omicron สะสม 2,062 คน เป็นอันดับ 13 ของโลก
เปรียบเทียบความเสี่ยงในการติดเชื้อจนต้องนอน รพ.ของแต่ละสายพันธุ์ Ratcliff J จากมหาวิทยาลัย Oxford ได้ทบทวนข้อมูลวิชาการและชี้ให้เห็นว่า ความเสี่ยงในการป่วยจนต้องนอน รพ.ของโรคโควิด-19 ของแต่ละสายพันธุ์นั้นจะพบว่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม Wuhan แล้ว สายพันธุ์ล่าสุดอย่าง Omicron มีความเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วป่วยจนต้องนอนรักษาใน รพ.มากกว่าถึง 1.4 เท่า หรือ 40% ในขณะที่อัลฟ่านั้นมากกว่า Wuhan ราว 1.7 เท่า และเดลตาราว 2.4 เท่า
วัคซีนช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ดังที่เราทราบกันมาแล้วว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรงได้ เพราะจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งในน้ำเลือด ที่เรียกว่า แอนติบอดี และภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีงานวิจัยถึง 6 ชิ้นจากทั่วโลกที่ศึกษาผลของวัคซีนต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ได้ และอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่ศึกษา และอาจนานกว่านั้น โดยภูมิคุ้มกันระดับเซลล์นี้สามารถต่อสู้กับเชื้อสายพันธุ์ Omicron ได้ด้วย (เครดิตตาราง: Topol E)
ภูมิคุ้มกันระดับเซลล์นี้เชื่อว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรง นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นข้อมูลที่สนับสนุนให้มีการฉีดแก่ประชาชน
สำหรับประชาชนไทย ขณะนี้เราเห็นชัดเจนว่า Omicron ระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ ถัดจากกลางเดือน คาดว่าจะเป็นช่วงอัตราเร่งของการระบาด (acceleration phase) การป้องกันตัวเองและสมาชิกในครอบครัวนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง อย่าหลงเชื่อกับการหวังจะได้ประโยชน์จากการติดเชื้อ ว่าไม่รุนแรง และหวังจะได้ภูมิคุ้มกันหมู่ เพราะการติดเชื้อไม่ใช่การฉีดวัคซีนธรรมชาติ มีโอกาสป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ การติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้นจะมีผลกระทบระยะยาวที่เรารู้จักกันในชื่อ Long COVID ซึ่งส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกายทั้งสมอง หัวใจ และหลอดเลือด ทางเดินอาหาร หรือภาวะทางจิตได้ในระยะยาว สายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้มีโอกาสเกิดได้ถึง 20-40% แต่สำหรับ Omicron เรายังไม่มีข้อมูล ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท ได้ไม่คุ้มเสียครับ
ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า อยู่ห่างจากคนอื่นเกิน 1 เมตร เลี่ยงที่แออัด ถ่ายเทอากาศไม่ดี หมั่นสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ควรหยุดเรียน หยุดงาน และรีบตรวจรักษา
อ่านโพสต์ต้นฉบับ