xs
xsm
sm
md
lg

'หมอธีระ'ชี้โควิดโอมิครอนติดเชื้อซ้ำได้มากกว่าสายพันธุ์เดิม ดื้อต่อภูมิคุ้มกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 694,939 คน ตายเพิ่ม 6,616 คน รวมแล้วติดไปรวม 273,916,442 คน เสียชีวิตรวม 5,359,878 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุด ยังเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน และสเปน

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 92.4 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 94.92

ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 59.53 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 56.93

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 12 ใน 20 อันดับแรกของโลก

สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 3,537 คน สูงเป็นอันดับ 32 ของโลก หากรวม ATK อีก 1,080 คน ก็ขยับเป็นอันดับ 25 ของโลก ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 5 ของเอเชีย

อัปเดต Omicron

เดนมาร์กรายงานจำนวนติดเชื้อล่าสุดเมื่อวานนี้ทำลายสถิติอีกครั้ง สูงถึง 11,194 คน ถือว่ามากกว่าปลายปีที่แล้วถึง 2.48 เท่า

เมื่อวานสหราชอาณาจักรมีการติดเชื้อเพิ่มทำลายสถิติอีกครั้ง สูงถึง 93,045 คน โดยที่มีอัตราการตรวจพบเป็นสายพันธุ์ Omicron สูงถึงร้อยละ 54.2 ทั้งนี้เฉพาะในลอนดอน มีอัตราการตรวจพบ Omicron สูงถึงราวร้อยละ 80

งานวิจัยจาก Imperial College พบว่า จากการติดตามจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลของสหราชอาณาจักร ความรุนแรงของโรคจาก Omicron ดูจะไม่ได้แตกต่างจากเดลต้า ทั้งนี้คงต้องมีการติดตามต่อไปเพื่อทำการประเมินให้ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ล่าสุดรายงานประเมินความเสี่ยงของ Omicron โดย UK HSA (Technical briefing ฉบับที่ 32) มีสาระสำคัญดังนี้

1. Omicron จะทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อกันในครัวเรือน (Household transmission) มากกว่าสายพันธุ์เดลต้าถึง 2.9 เท่า (ช่วงความเชื่อมั่น 2.4-3.5 เท่า)

2. จากการประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่าลักษณะการติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron ในสหราชอาณาจักรนั้น มีถึงร้อยละ 47.8 ที่ติดจากผู้ติดเชื้อที่อยู่นอกครัวเรือน ในขณะที่สายพันธุ์เดลต้านั้นมีลักษณะการติดเชื้อจากคนภายนอกครัวเรือนเพียงร้อยละ 19.8 ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่าลักษณะการติดเชื้อแพร่เชื้อของ Omicron นั้นแตกต่างจากเดลต้าเดิม และอาจต้องนำไปพิจารณาเรื่องมาตรการควบคุมป้องกันโรคให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น

ด้วยข้อมูลสถานการณ์ระบาดของ Omicron ทั่วโลกจะพบว่า นี่เป็นภัยคุกคามที่รุนแรง ทั้งในเชิงอัตราการแพร่ที่รวดเร็วกว่าเดิม ติดเชื้อซ้ำได้มากกว่าสายพันธุ์เดิม ดื้อต่อภูมิคุ้มกันทั้งจากวัคซีนและจากการที่เคยติดเชื้อมาก่อน รวมถึงการดื้อต่อการรักษาด้วยโมโนโคลนัล แอนติบอดี้หลายชนิด

ต่อให้ความรุนแรงของสายพันธุ์นี้จะเท่าเดลต้า หรือจะน้อยกว่าเดลต้า แต่จำนวนการติดเชื้อใหม่ที่จะปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว จะส่งผลให้มีคนเจ็บป่วยได้มาก

เราจึงเห็นปฏิกิริยาตอบสนองเชิงนโยบาย และมาตรการควบคุมป้องกันโรคจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่เน้นเรื่องความเข้มงวด เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก แม้กระทั่งประเทศที่เคยประกาศจะอยู่ร่วมกับโควิด-19 ก็ไม่เว้น

ยืนยันอีกครั้งด้วยหลักฐานวิชาการต่างๆ ว่า "โควิด-19 ไม่กระจอก"

บทเรียนจากวาทกรรมก็แค่ไข้หวัดธรรมดา ไวรัสกระจอก เอาอยู่ เพียงพอ รับมือได้ เป็นดังที่เราเห็นในรอบปีที่ผ่านมา

กว่าสองล้านคนที่ติด กว่าสองหมื่นชีวิตที่สูญเสีย เกิดจากเหตุใด?

ควรทำเช่นไรเพื่อปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของตัวเรา สมาชิกในครอบครัว คนรอบข้างในที่ทำงาน และคนที่เรารู้จักมักจี่ สนิทสนมรักใคร่ชอบพอกันในสังคม

ประชาชนทุกคนควรใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท มีสติในการใช้ชีวิตประจำวัน ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ไม่หลงไปกับวาทกรรมที่ไม่ถูกต้อง

ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า และเว้นระยะห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร

เลี่ยงการตะลอนท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี

เลี่ยงการจัดปาร์ตี้สังสรรค์คริสตมาสและปีใหม่ ฉลองกับคนในบ้านจะปลอดภัยกว่า

ด้วยรักและห่วงใย